วันพฤหัสบดีที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2557

พุทธทำนาย ฤาจะถึงกาลสิ้นยุค

Photo by Chatchai-Rombix (CCPC2008)

พุทธทำนาย ฤาจะถึงกาลสิ้นยุค 
๑๖ เหตุแห่งมหากาลีกาลชึ่งมนุษย์จักประหารผลาญเผ่าพันธุ์
( อ่านแล้วดูค้นๆทุกข้อเลย อะ...)


๑ โคสีดอกอัญชัญ  (ข้าวยากหมากแพง)
พระเจ้าปเสนทิโกศลฝันว่า
*โคใหญ่มีกำลัง ตัวสีดังดอกอัยชัน
วิ่งมาจะชนกัน จากสี่ทิศภาพติดตาฯ
*ทั้งสี่ดูเกรี้ยวกราด แค้นอาฆาตจะเข่นฆ่า
โกรธกันพันปีมา หมองในใจไม่ยอมกันฯ
*ชาวเมื่องออกมาดู ด้วยอยากรู้สี่ตัวนั่น
ต่างฝ่ายต่างดุดัน เมื่อชนกันเป็นอย่างไรฯ
*แต่แล้วต่างถอยฉาก ทั้งสี่จากออกไปไกล
ลับหายเกนหายใจ ชาวพาราว่าเสียดายฯ

"ความหมาย"
โคสีดอกอัญชัน ๔ ตัว คำรามลั่น วิ่งมาจากทิศทั้ง ๔ เหมือนจะชนกัน พอเข้าใกล้ทั้ง๔ตัวก็ถอยกลับหายไปในทิศที่วิ่งมา

"พระพุทธเจ้าทรงทำนายว่า"
*ความหมายได้ชัดว่า มีบรรดามวลเมฆฝน
ลอยมามิดเบื้องบน แต่แล้วคลายหายลับไปฯ
*ไพร่ฟ้าประชาชน ต้องทุกข์ทนเป็นการใหญ่
ด้วยฝนไม่เป็นใจ ที่นาแล้งข้าวแห้งรอฯ
*พืชผักที่ปลูกไว้ ต้องเฉาตายให้ทุกข์ท้อ
ข้าวยากหมากไม่พอ ที่มีอยู่ก็ยิ่งแพงฯ
*ผู้คนทนทุกข์ยาก ต้องลำบากทุกข์หนแห่ง
ธรรมชาติรุกรานแรง และคนชั่วมีทั่วไปฯ
*ตัดไม้ทำลายป่า นำไปค้าทำกำไร
ป่าหมดเหมือนหมดใจ สำนึกได้ก็สายเกินฯ
"ความหมาย"
ในอนาคตเมื่อมนุษย์ขาดศิลธรรม และโลกเข้าสู่ยุคเสื่อม จะเกิดภัยธรรมชาติ ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล เกิดความแห้งแล้ง เพราะมีคนเห็นแก่ตัวโลภมาก พากันลักลอบตัดไม้ทำลายป่าจนหมด 
เมื่อไม่มีต้นไม้ใหญ่ ป่าก็ขาดความชุ่มชื้น ฝนจึงไม่ตกต้องตามฤดู ทำให้ข้าวกล้าในนาและพืชพันธุ์ธัญญาหารต่างๆพากันยืนต้นแห้งตาย มนุษย์และสัตว์ทั้งหลายก็จะพากันทุกข์เข็ญ บ้างก็อดอยากปากแห้งล้มตายไปก็มี
มิหนำช้ำพวกมนตรีพดง่เขลาเบาปัญญา เข้ามาบริหารบ้านเมืองก็ยังคบคิดแต่อามิสใส่ตัวใส่พวกพ้องจนประเทศชาติยากจน ผู้คนต้องทุกข์ยาก...

๒ ไม้รุ่นออกดอกผล (เยาว์ชนมั่วกาม)
พระเจ้าปเสนทิโกศลฝันว่า
*ไม้รุ่นนานาพันธุ์ ทั่วเมืองนั้นทุกแห่งหน
มองเห็นกับตาต้น มีดอกผลไปตามกันฯ
*ทั้งที่ยังเยาว์นัก กิ่งก้านหนักให้นึกหวั่น
ผลดกแผกสายพันธุ์ ฝันอย่างนี้มีผลใดฯ

"ความหมาย"
ฝันเห็นต้นไม้นานาชนิดยังไม่ทันโตเต็มที่ ก็มีดอกมีผลมากมาย จนทำให้กิ่งก้านที่ยังไม่ทันเป็นไม้แก่แข็งแรงเต็มที่ ทนรับน้ำหนักไม่ไหวต้องโน้มกิ่งลงเรี่ยดิน

พระพุทธเจ้าทรงทำนายว่า
*ภายหน้าชวนอนาถ เด็กของชาติจะโฉดทราม
มั่วสุมเกลือกกองกาม ไม่เหลือนามตระกูลวงศ์ฯ
*ตั่งท้องกันก่อนวัย เอาแต่ใจยิ่งต่ำลง
เที่ยวเตร่ระเริงหลง เรี่องเรียนรู้อยู่ไกลตัวฯ
*ทำแท้งจนคุ้นเคย นึกชินเฉยในโฉดชั่ว
เติบโตอย่างมืดมัว ไร้ทิศทางอย่างคนดีฯ
*คบเป็นแต่เพื่อนชั่ว ถนัดมั่วเรีองบัดสี
เด็กเลวยุคกากี เป็นเชื้อพลีกามารมณ์ฯ
*เป็นเหยื่อของสื่อชั่ว ที่โหมยั่วให้นิยม
ให้อยากอย่างโง่งม หลงคลั่งไคล้ไม่ลืมตาฯ

ความหมาย
ในอนาคตเมื่อมนุษย์ขาดศิลธรรมและโลกเข้าสู่ยุคเสื่อม เยาว์ชนชึ่งยังอยู่ในวัยที่ยังไม่สมควรมีครอบครัว จะมีความกระสันใฝ่ในตัณหาราคะ มีความกำเริบในกามคุณ มีความยินดีใน รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ เป็นอย่างมาก มีความอยากในกามารมณ์จึงจับคู่มั่วสุมกันอย่างอิสระไม่สนใจประเพณีอันดีงาม หรือหน้าที่ของเยาว์ชน บางคนมั่วสุมกัน ไม่มีความละอาย แสดงความรักกันในที่สาธารณะเป็นเรีองปกติ มีความเชื่อว่าการมีคู่ การมีแฟนเป็นเรีองเท่ เป็นแฟชั้นที่ต้องแสดงออก
เมื่อตั้งครรภ์ขึ้นมา ก็ทำแท้งฆ่าลูกในท้องของตัวเอง บางคนทำแท้งไม่ได้เพราะท้องแก่มากแล้ว เมื่อปล่อยให้ลูกออกมาก็ให้พ่อแม่เลี่ยงดู บางคนพ่อแม่เลี่ยงดูไม่ไหว ต้องปล่อยปละละเลยให้หากินตามลำพัง เป็นเด๋กเร่ร่อนจรจัด ไม่มีพ่อแม่ ขาดการศึกษา ไม่มีที่พึ่งพาอาศัย ไม่มีบ้านเรือน ค่ำที่ไหนนอนที่นั้น อดบ้าง อิ่มบ้าง น่าเวทนายิ่งนัก...

๓ แม่โคขอกินนมลูก (ลูกอกตัญญู)
พระเจ้าปเสนทิโกศลฝันว่า
*แม่โคน้ำตาริน ขอนมกินจากลูกโค
ซบร่างที่อดโซ คุกเข่ารอความเห็นใจฯ
*ลูกโคแม้เป็นลูก กลับดูถูกเหยียดหยามใส่
แม่โคทอดอาลัย วอนเท่าใดไม่เหลียวมองฯ

ความหมาย
เห็นฝูงพ่อแม่โคที่เพิ่งคลอดลูกออกมา กลับวิ่งตามลูกโคเพื่อดูดนมลูกโคกิน ลูกโคที่ไหนจะมีนมให้แม่โคดูดเล่า เห็นแล้วน่าเศร้าใจยิ่งนัก

พระพุทธเจ้าทรงทำนายว่า
*ภายหน้าพ่อและแม่ ถึงคราวแย่แก้ไม่ได้
พฤติกรรมน่าตกใจ ลูกในไส้เนรคุณฯ
*ไม่เลี้ยงไม่ดูแล ลืมพ่อแม่ที่เคยหนุน
ปล่อยไว้แล้วแต่บูญ แล้วแต่กรรมจะนำพาฯ
*เมื่ออยากลำบากเร้า ยิ่งน่าเศร้าสลดกว่า
พ่อแม่บ่ายหน้ามา ด้วยหวังว่าจะพึ่งพิงฯ
*ลูกยาก็เหยียดหยาม พูดประณามเป็นที่ยิ่ง
โดยใจทุกข์จริงจริง ชีวิตนี้จะมีใครฯ
*เมื่อจนจึงทนจำ อกลึกช้ำลูกจัญไร
สองคนจึงตัดใจ เดินขอทานเช่นนั้นเองฯ

ความหมาย
ในอนาคตเมื่อมนุษย์ขาดศิลธรรมและโลกเข้าสู่ยุคเสื่อม พ่อแม่จะตามใจลูก เลี้ยงดูเหมื่อนต้องการให้ลูกเป็นเทวาดา ลูกอยากได้อะไรก็หามาประเคนให้ จนลูก กลายเป็นคนสันดานหยาบ ไม่รู้สึกเห็นใจผู้อื่น ไม่มีน้ำใจเมื่อทำอะไรก็ทำตามความอยากของกิเลส แล้วแต่อารมณ์ฝ่ายต่ำจะนำพาหาความกตัญญูจากลูกของตนเองแท้ๆมิได้เลย เมื่อชราทำมาหากินไม่ไหวก็ต้องทนกินน้ำตาอ้อนวอนลูก ขอเศษเงินชื้ออาหารประทังชีวิต กว่าลูกจะให้ได้ก็ดุด่าประจานต่างๆนานา บางคนถึงกับไล่พ่อแม่ไม่ให้เข้าบ้าน ต้องไปเป็นขอทานมี
ที่น่าห่วงคือตัวเลขคนแก่ที่บ้านพักคนชราเพิ่งมากขึ้น จนทำให้อดคิดไม่ได้ว่า ความเป็นครอบครัวที่อบอุ่น อยู่กันพร้อมหน้า ปู่ ย่า ตา ยาย พ่อ แม่ ลูก นั้นได้เลือนหายไปหมดแล้วหรืออย่างไร....

๔ ลูกโคไถนา (ใช้คนไม่ถูกงาน)
พระเจ้าปเสนทิโกศลฝันว่า
*โคใหญ่ชำนาญการ รู้แง่งานทุกด้านไป
ร้อนหนาวล้วนเข้าใจ อีกลึกรู้ฤดูกาลฯ
*ถูกเมิน ถูกหมองมาน ถูกทิ้งขว้างไม่ใช้งาน
แต่เอาโคเมื่อวาน มาเทียมไถใช้ทำนาฯ
*ลูกวัวตัวยังเยาว์ ทั้งความเขลาเต็มอัตรา
เมื่อหนักจึงระอา ดึงแอกไปไม่ตรงทางฯ
*สะเปะสะปะย่ำ ไม่เคยทำไม่คุ้นย่าง
หมดทนจึงเลือกทาง สะบัดแอกแยกหนีไปฯ

ความหมาย บรรดาชาวไร่ชาวนาที่เคยใช้วัวใหญ่ที่ชำนาญงาน ไถคราดมาแต่ไหนแต่ไร กลับทิ้งวัวใหญ่ ไม่สนใจเลี้ยงดู ซ้ำยังนำลูกวัวที่ไม่เคยงานมาใช้ไถคราด ก็ไม่ได้ผลทำให้เสียงานเสียการไร่นา คราด ไถไม่ได้อย่างเคย

พรพุทธเจ้าทรงทำนายว่า
*ภายหน้าเมื่อนานไป ถึงสมัยคนใจต่ำ
ความดีถูกเหยียบย่ำ ความชั่วทรามถูกยกยอฯ
*ผู้นำมีอำนาจ ทำผิดพลาดน่าหัวร่อ
เลือกคนเก่งไม่พอ ให้ทำงานเพื่อบ้านเมืองฯ
*คนดีที่สามารถ รู้งานชาติอยู่ทุกเรื่อง
ถูกปรับไปจนเปลือง ถูกใส่ร้ายให้เสียคนฯ
*โดยชั่วหินชาติ หลงอำนาจ เมืองหมองหม่น
เดือดร้อนไปทุกหน ความโฉดชั่วแพร่ทั่วไปฯ
*งานหลวงทุกโครงการ สินบนบานถูกชั่วไช
คนโฉดอันเน่าใน น้อมชีพใช้ทำลายเมืองฯ
*งานราษฎร์ทุกงานไป ต้องส่วยใส่ไม่ให้เคือง
ลิ่วล้ออันรองเรือง ระเริงแรงเร้าบาปกรรมฯ

ความหมาย ในอนาคตเมื่อมนุย์ขาดศีลธรรม โลกจะเข้าสู่ยุคเสื่อม คนชั่นปกครอง ผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน จะเล่นพรรคเล่นพวก ไม่ใท่ใดจะเอาแต่คนชั่วโง่เขลาเบาปัญญา ไม่รู้จริง ไม่ชำนาญงาน คนเหล่านี้จะทำให้ชาติบ้านเมืองพินาศฉิบหาย เงินคงคลังของชาติต้องย่อยยับหมดไปกับการฉ้อราษฏร์บังหลวง งานการของชาติมีแต่ยุ่งเหยิงเพราะพวกไม่ชำนาญงานเหล่านี้ที่ได้แต่อวดเบ่งยศศักดิ์ ทำผิดให้กลับเป็นถูก เพื่อเงินสินบนใส่ตนและพวกพ้องถ่ายเดียว ผู้คนต้องตกทุกข์ได้ยาก และลำเค็ญเดือดร้อนกันทั่วทั้งเมือง...

๕ ม้าสองปาก (ความยุติธรรมตกอับ)
พระเจ้าปเสนทิโกศลฝันว่า
*ม้าหนึ่งตัวแปลกมาก มีสองปากอ้าอยากอยู่
เพ่งคิดพินิจดู มันอ้ารอน้ำลายรินฯ
*หญ้าสดรสอร่อย มีคนคอยป้อนให้กิน
ม้าเคี้ยวจนหมดสิ้น ป้อนเท่าไรก็ไม่พอฯ

ความหมาย ฝันเห็นม้าตัวหนึ่งแปลกมาก แทนที่จะมีปากเดียวเหมือนม้าทั่วไป กลับมีสองปาก ทั้งสองปากยังอ้ามีน้ำลายไหลตลอดเวลา มีชายสองคนเฝ้าป้อนหญ้าให้กินทั้งสองปาก แต่ม้านั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะอิ่มแต่อย่างใด

พระพุทธเจ้าทรงทำนายว่า 

*ภายหน้าจะสลด จะปรากฎความชั่วทราม
เมื่อมีคดีความ ต้องสินบนทุกคนไปฯ
*จำเลย หรือว่าโจทก์ เจอเล่ห์โฉดต้องทำใจ
คนตัดสินจัญไร กินซ้ายขาวน่ารำคาญฯ
*กับโจทก์บอกจะช่วย เล่ห์ลุ่มรวยคำฉะฉาน
มีเงินก็ได้งาน เห็นทั่วไปในสังคมฯ
*กับจำเลยก็บอก คำล่อหลอกจนเสร็จสม
เงินมาไม่ระทม คดีนี้ยังมีทางฯ
*คนจนจะลำบาก ยิ่งทุกข์ยากไปทุกย่าง
หมดเงินก็หมดทาง มีคดีเหมือนมีเวรฯ

ความหมาย ในอนาคตเมื่อมนุษย์โลกขาดศีลธรรม และโลกเข้าสู่ยุคเสื่อม ผู้มีหน้าที่ตัดสินคดีความ หรือมีหน้าที่ดำเนินการด้านคดีความต่างๆ เช่น ตุลาการ อัยการ ผู้พิพากษา ตำรวจ เป็นต้น จะใช้เล่ห์เหลี่ยมอุบายวิธีอันสกปรกหลอกเอาเงินทั้งจากโจทก์และจำเลย ตามความหนักเบาของคดีความ กระบวนการยุติธรรมจะไม่สามารถเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ จะมีการตัดสินคดีความตามน้ำหนักของเงินสินบนว่าฝ่ายไหนจะให้มากกว่ากัน ถ้าฝ่ายจำเลยให้สินบนมากกว่า ก็จะตัดสินให้ฝ่ายจำเลยชนะ ถ้าฝ่ายโจทก์ให้สินบนเยอะกว่าก้จะตัดสินให้ฝ่ายโจทก์ชนะไป เป็นต้น...

ถาดทองรองเยี่ยว (คนชั่วมีอำนาจ)
พระเจ้าปเสนทิโทศลฝันว่า
*ถาดทองมีราคา ตึมูลค่ามหาศาล
หลายคนมาที่ลาน ช่วยช่วยกันขัดถูกไปฯ
*ถาดทองก็วาววับ ประกายจับเป็นเงาใส
แล้วช่วยพากันไป วางไว้หน้าหมาตัวนั้นฯ
*เชิญเถิด เชิญเยี่ยวใส่ ทำตามใจท่านโดยพลัน
หมาแก่ดีใจครัน ทำตามไปโดยไม่รอฯ

ความหมาย ฝันว่ามีคนอุตส่าห์พากันขัดถาดทองคำจนเป็นสีทองสุกปลั่ง แต่กลับเอาไปวางไว้ให้หมาปัสสาวะรดบนถาดทองถาดนั้นด้วยความยินดี

พระพุทธเจ้าทรงทำนายว่า 
*คนดีจะถูกบัง คนชั่วนั่งเป็นเสนา
ผู้นำอับปัญญา เหมือนตาบอดตลอดกาลฯ
*บริวารแต่ละคน ใจฉ้อฉลอันธพาล
เลือกมาไม่เป็นงาน ดีแต่ปากยากทำใจฯ
*ทำเป็นแต่โกยกอบ เรื่องมิชอบเก่งกว่าใคร
เครือข่ายขยายไกล ขยายชั่วสร้างตัวแทนฯ
*ทุกข์ทนอันมากมี เป็นทุกข์ที่กระจายแดน
แผ่นดินยิ่งแร้นแค้น ด้วยเหลี่ยมล้นเล่ห์คนพาลฯ
*ผู้นำที่คิดผิด ก็เหมือนพิษอันนมนาน
แผ่ทั่วเกินตัวต้าน รู้สึกได้ก็สายเกินฯ

ความหมาย ในอนาคตเมื่อมนุษย์ขาดศีลธรรมและโลกเข้าสู่ยุคเสื่อม ผู้บริหารบ้านเมืองจะคบหาคนพาล คนชั่ว เอาคนชั่วมาเป็นบริวาร ส่งเสริมด้วยยศตำแหน่งให้ ไม่คบหาปัญญาชน ไม่ส่งเสริมให้ยศ หรือบรรดาศักดิ์ ไม่นับถือปราชญ์ ดุจดั่งขมิ้นกับปูนทั้งไพร่ทั้งบ่าวต่างคะนองลำพองพาล ผู้บริหารแผ่นดินไม่สนใจเหลียวแลทุกข์สุขของประชาราษฎร์ ผู้ปกครองและบริวารเอาแต่กอบโกย เพราะคิดว่าประชาชนไม่ใชพวกพ้องของตน...

๗ สุนัขกินเชื่อกหนัง (คู่ครองนอกใจ)
พระเจ้าปเสนทิโกศลฝันว่า
*ชายหนึ่งตั้งใจมั่น สองมือฟั่นทำเชื่อกหนัง
หย่อนย้อนลงไปยัง ใต้ถุนร้านบ้านของตนฯ
*หมาหนึ่งนอนใต้ร้าน เชื่อกย้อนยานให้เห็นหน
กัดกินเชื่อกเสียจน ไม่ยึดขึงลงถึงดินฯ
*ชายนั้นไม่รู้ได้ เชื่อกหย่อนไปถูกกินสิ้น
หมดหนังเพราะหมากิน ฟั่นเท่าไหร่ก็ไม่พอฯ

ความหมาย ฝันว่าเห็นคนนั่งฟั่นริ้วหนังสัตว์เป็นเนเชื่อกอยู่บนนเรีอน แล้วปล่อยปลายเชื่อกลงไปในร่องพืนสู่ใต้ถุนบ้าน แต่ปลายเชื่อกกลีบถูกสุนัขที่หมอบอยู่กัดกิน ชายที่ฟั่นเชื่อกหารู้ไม่ว่าปลายเชื่อกถูกสุนัขกัดกินจนเชื่อกที่หย่อนยานลงไปกุดสั้นไม่ถึงพื้นสักที่ถึงแม้ชายฟั่นเชื่อกคนนั้นจะฟั่นจนหมดริ้วหนังสัตว์เชื่อกหนังนั้นก็ไม่มีโอกาสถึงพื้นดินได้เลย

พระพุทธเจ้าทรงทำนายว่า 
*กาลภายหน้าอนาคต เกิดเรี่องอัปยศกับครอบครัว
ชายหญิงคือเมียผัว จะนอกใจในคู่ครองฯ
*คบชู้เป็นคู่สม อภิรมย์ในกามหมอง
มัวเมากันหมายมอง ต่างฝ่ายจ้องจะนอกใจฯ
*บางหญิงสันดานชั่ว แบ่งเงินผัวที่หาได้
แอบมอบให้ชู้ไป เบียดเบียนอยู่ไม่รู้ตัวฯ
*งานบ้านไม่รู้จัก ภาระหนักอยู่กับผัว
แอบผลาญไปตามชั่ว ตามแรงร้อนที่กามดึงฯ
*บางชายก็หยาบช้า ได้เงินมาแอบแบ่งครึ่ง
ให้เมียแค่ส่วนหนึ่ง อีกส่วนไซร์ให้ชู้ตนฯ
*งานบ้านไม่รู้คิด ใช้ชีวิตไม่รู้หน
หัวใจยิ่งมืดมน ชีวิตคู่จึงคลอนแคลนฯ

ความหมาย ในอนาคตเมื่อมนุษย์ขาดศีลธรรม จะเกิดเหตุเลวร้ายระหว่างผัวเมีย เพราะต่างก้มากด้วยเล่ห์กลมารยา เมามัวในกิเลสตัณหา ผัวทำงานหาเงินมาส่งให้เมียเพื่อเป็นผู้เก็บรักษา แต่กลับไม่สนใจงานเรือน เมื่อผัวไม่อยู่ เมียจะคบชู้สู่ชาย มิหนำซ้ำยังเบียดเบียนเงินทองของผัวที่หามาได้ให้กับชายชู้ ครอบครัวต่อไปภายภาคหน้าจะหาความมั่นคงและร่ำรวยขึ้นไม่ได้แน่นอน ฝ่ายชายก็ประพฤติในแบบเดียวกัน เงินที่หามาได้ก็แอบแบ่งไปเจือจารหญิงอื่นที่มิใช่ภรรยาเพียงเพื่อแลกกับการหลับนอน โดยไม่คำนึงถึงสภาพครอบครัวว่าจะพังพินาศไปอย่างไรหรือไม่ ต่างฝ่ายต่างนอกใจคู่ครองของตน เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ในยุคสมัยที่ผู้คนถูกราคะตัณหาครอบงำจนมองไม่เห็นอะไรควร หรือไม่ควร

 ตุ่มน้ำว่างเปล่า (ช่องว่างในสังคม)
พระเจ้าปเสนทิโกศลฝันว่า
*ชาวบ้านมาช่วยกัน เทน้ำนั้นลงตุ่มใหญ่
น้ำล้นกระจายไป ยังเทใส่ไม่รู้พอฯ
*ตุ่มเล็กกลับเหลือไว้ ไม่เทใส่แปลกจริงหนอ
ให้ว่างอย่างนั้นต่อ หรืออย่างไรไม่รู้เลยฯ

ความหมาย ฝันว่ามีประชาชนจำนวนมากพากันหาบน้ำมาเทใส่ตุ่มใหญ่ จนน้ำล้นไหลลงพื้นดิน ก็ยังเทใส่อยู่ ส่วนตุ่มเล็กวางเรียงรายอยู่มากมายแต่น้ำแห้งขอด ประชาชนเหล่านั้นไม่ได้สนใจที่จะตักน้ำใส่ตุ่มเล็กเลย 

พระพุทธเจ้าทำนายว่า 
*ผู้นำจะสิ้นคิด เป็นวิกฤติของยุคหมอง
คิดการณ์ไม่ไตร่ตรอง โมหะมัวยึดหัวใจฯ
*สมคบกลุ่มทุนทำ เข้าครอบงำโดยทั่วไป
เครือข่ายเมื่อชักใย ก็โยงโฉดประโยชน์ดึงฯ
*กำหนดให้กฎมี เก็บภาษีให้ทั่วถึง
แต่แล้วความจริงหนึ่ง ก็ปรากฏเป็นบทจำฯ
*คนรวยหลบภาษี ถึงมากมีก็ยังทำ
คนจนแม้ทนกรำ จ่ายจนจบครบรายการฯ
*ยุคนี้ผู้คนเข็ญ ให้ลำเค็ญกันทั่วถึง
ทำงานเหมือนถูกตรึง โซ่ตรวนต้องเข้าจองจำฯ
*หาทรัพย์ เมื่อได้ทรัพย์ แต่คนรับไม่เคยทำ
คอยแต่แบมือกำ กอบทรัพย์กองตามต้องการฯ
*ที่รวยจึงรวยนัก ที่จนหนักทุกข์ดักดาน
ภาษีเหมือนยักษ์มาร มาสูบเลือดจนเผือดไปฯ

ความหมาย ในอนาคต เมื่อมนุษย์ขาดศีลธรรมและโลกเข้าสู่ยุคเสื่อม ผู้นำจะเข้มงวดกับราษฎรให้เสียภาษี จนเดือดร้อนไปทั่ว ผู้ยากไร้ต่างก็หน้าดำคร่ำเครียดไปตามๆกัน แต่ไม่เอาจริงเอาจังกับบางกลุ่มที่เป็นพวกพ้อง และหลบเลี่ยงภาษีเป็นนิจศีล ไม่สนใจที่จะตรวจสอบนำเงินเหล่านั้นที่รัฐเสียหายไปปีละเป็นจำนวนมาก เหตุการณ์นี้ก็เหมือนตุ่มใหญ่ที่น้ำล้นไปทั่ว แต่ตุ่มเล็กที่วางเรียงรายกลับขาดน้ำ


 สระน้ำขุ่นกลาง (คนดีหนีเข้าป่า คนชั่วช้าเข้าครองเมือง)
พระเจ้าปเสนทิโกศลฝันว่า
*ฝันว่ามีสระใหญ่ รอบรอบใสสะอาดยิ่ง
ตรงกลางให้แปลกจริง กลับขุ่นข้นต้องมนตร์ใดฯ
*สัตว์น้ำในสระนั้น ไปรวมกันที่น้ำใส
แหวกว่ายสบายใจ ไปโดยทั่วทุกตัวปลาฯ
*ที่ขุ่นกลางสระใหญ่ มองดูไปก็ทราบว่า
ไม่มีสัตว์น้ำมา อยู่อาศัยให้เห็นเลยฯ

ความหมาย ฝันว่า สระบัวใหญ่ มีน้ำใสเป็นตาตั๊กแตนอยู่โดยรอบ หมู่ปู ปลา กุ้ง หอย ได้อาศัยอยู่ อย่างมีความสุข แต่กลางสระนั้น น้ำกลับขุ่นข้นเป็นโคลนปราศจากสัตว์น้ำอยู่อาศัยแม้แต่ตัวเดียว โดยธรรมชาติของสระทั่วไปปรกติน้ำจะขุ่นบริเวณรอบสระและใสตรงกลางสระ สัตว์น้ำมักจะอาศัยพักพิงบริเวณกลางสระเป็นส่วนใหญ่

พระพุทธเจ้าทรงทำนายว่า 
*ประเทศที่เป็นสุข จะถูกทุกข์เข้าโถมใส่
คืนวันที่พอใจ จะล้างลับไปฉับพลันฯ
*ลำคลองที่รินไหล จะเปลี่ยนไปเป็นดอนมั่น
กรรมชั่วที่ผิดพันธุ์ จะปรากฏให้เห็นมีฯ
*น้ำขุ่นที่มองเห็น เปรียบก็เช่นปวงมนตรี
ชั่วร้ายเป็นกาลี รุกย่ำยีประชาชนฯ
*บีบเค้นเบียดเอาทรัพย์ ขัดขืนจับได้อับจน
ฉ้อราษฏร์บังหลวงล้น เล่ห์แยบยลอยู่ครบครันฯ
*เมื่อทุกข์เข้ารุกหนัก ลำบากนักให้นึกหวั่น
เป็นตายคงเท่ากัน จึงต้องลี้หนีกันไปฯ

ความหมาย ในอนาคตเมื่อมนุย์ขาดศีลธรรมและโลกเข้าสู่ยุคเสื่อม ประเทศใดที่ผู้นำบริหารประเทศด้วยหลักทศพิธราชธรรม ดูแลทุกข์สุขราษฎรเป็นอย่างดี ก็จะนำพาประเทศชาติให้อยู่รอดปลอดภัย แตถ้าหากประเทศใดผู้นำไม่อยู่ในทำนองคลองธรรม ก็จะถูกภูติผีปีศาจ คือคนพาลที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน เข้าประจบสอพลอยุให้หลงกระทำในสิ่งที่ผิดๆร่วมกันกับพวกลิ่วล้อผู้มีอำนาจเหล่านั้น กดขี่ข่มเหงเอาเปรียบราษฎร ด้วยเล่ห์เพทุบายสลับซับซ้อนเกิดความเดือดร้อนไปทั่ว ประชาชนเหล่านั้นเดือดร้อน ทนไม่ไหวต้องพากันอกห่าง ไม่คบหา ไม่ให้การสนับสนุน อีกต่อไป.... 


๑๐  ข้าวสุก ดิบ แฉะ ไหม้ (เห็นชั่วเป็นดี เห็นดีเป็นชั่ว)
พระเจ้าปเสนทิโกศลฝันว่า
*คนหนึ่งเมื่อหุงข้าว ในหม้อราวข้าวสุกอยู่
แต่มองชัดจึงรู้ ดิบ เปียก ไหม้ให้แปลกใจ

ความหมาย ฝันเห็นคนนั่งนุ่งข้าวอยู่เป็นที่น่าประหลาดใจมาก เพราะข้าวที่อยู่ในหม้อเดียวกัน เมื่อสุกก็น่าจะสุกเหมือนกัน ดิบก็น่าจะดิบเหมือนกันหมด แต่ที่ว่าน่าประหลาดนั้นก็คือ ข้าวในหม้อกลับมีดิบ มีสุก มีแฉะ และบางที่ก็ไหม้เกรียม เป้นเช่นนี้ทั้งหม้อ


พระพุทธเจ้าทรงทำนายว่า
*เมื่อผู้ปกครองชั่ว ให้มืดมัวไปทุกที่
บ้านเมืองซึ่งเคยดี ก็เหมือนไร้หัวใจตนฯ
*ผีที่รักษาเมือง กลับโกรธเคืองเป็นล้นพ้น
เกรี้ยวกราดแสดงตน จึงร้ายแรงแสดงตัวฯ
*ฤดูกาลจะแปรปรวน นาไร่ล้วนพินาศทั่ว
แห้งแล้งจนน่ากลัว เดือร้อนไปทั้งแดนดินฯ
*ที่ดูแลศาสนา ไม่นำพาสิ่งดีนั้น
สิ่งชั่วเมื่อได้ยิน ตีอกร้องสยองไปฯ
*ธรรมเนียมที่ว่าดี มาบัดนี้เป็นไม่ใช่
เมื่อมีคนใส่ใจ กลับต่อว่าชิชะเชยฯ
*นับถือแต่บาปหมอง ที่ถูกต้องทำเป็นเฉย
ชั่วช้าจึงได้เคย คุ้นแต่ชั่วที่ตัวจมฯ
*พระสงฆ์ที่คงวัตร ปฏิบัติน่าชื่นชม
ไม่มีคนนิยม ยุควิบัติจึงชัดเจนฯ

ความหมาย ในอนาคตเมื่อมนุษย์ขาดศีลธรรม สังคมอันวิปริตทำให้ประเพณีที่ดีงามต้องคลาดเคลื่อนไปจากเดิม ชาวประชาไม่สนใจไม่ศรัทธา พากันเสื่อมถอยไปจากสิ่งอันควรบูชา ทำให้เกิดทุกข์เวทนา เดือดร้อน ไปทุกหย่อมหญ้า ทั้งนี้เป้นเพราะพระเสื้อเมืองซึ่งเป็นเทวดารักษาเมือง ได้พากันถอยห่าง ฤดูกาลก้จะผันแปร ถึงฤดูหนาวก็ไม่หนาว ถึงฤดูฝน ฝนก็ไม่ตกต้องตามกาลเวลา ถึงฤดูร้อนก็มัวซัวซึมเซา และบางครั้งก็ร้อนแรงแผดเผาไปทั่ว ผู้เป็นใหญ่ก็คิดอคติ แบ่งแยกเป็นก๊ก เป็นเหล่า เห็นชั่วเป็นดี เห็นธรรมเป็นอธรรม คนดีมีสัจจะ ชื่อสัตย์ กตัญญู จะถูกสังคมรังเกียจหาว่าเป็นคนโง่เง่า โบราณ งมงายไม่ทันสมัย ไม่มีใครคบหาสมาคนด้วย พระดีมีธรรมวินัยก็ถูกเมิน แม้ญาติมิตรก็ห่างเหินไม่จริงใจต่อกัน บรรดาเสนาบดีผู้มีอำนาจ มียศศักดิ์ จะถือเอาความคดโกงเป็นที่ตั้ง ใครโกงได้คือคนฉลาดต่อไปพระสงฆ์องค์ใดไม่คล้อยตามสังคมของมนุษย์ พระสงฆ์นั้นก็จะไม่มีใครสนใจที่จะใส่บาตรหรือนำปัจจัยไปถวาย...

๑๑ แก่นจันทน์ (นักบุญ คนบาป)
พระเจ้าปเสนทิโกศลฝันว่า
*แก่นจันทร์สิ่งสูงค่า โดยราคาว่าเป็นแสน
คนเขลาเอามาแทน แลกนมโคโง่จริงจริงฯ

ความหมาย ฝันเห็นคนนำแก่นจันทร์ที่มีราคาแพงจนหาค่าประมาณมิได้ แต่ชายคนนั้นกลับนำไปแลกกับนมเปรี้ยวและนมโค มี่มีราคาเพี่ยงน้อยนิดซึ่งจะเทียบกับค่าราคาของแก่นจันทร์ไม่ได้เลย เหมือนกับว่านำทองคำไปแลกกับตะกั่วฉะนั้น 

พระพุทธเจ้าทรงทำนายว่า
*ภายหน้าว่าเหล่าสงฆ์ ไม่อาจคงศาสนา
มืดบอดสิ้นปัญญา เอาพระธรรมไปขายกินฯ
*เร่ขายธรรมะค้า แสวงหาแต่ทรัพย์สิน
ค่าธรรมะหมดสิ้น มุ่งชีพใช้ใจมืดดำฯ
*ยิ่งค้ายิ่งผิดทาง ใจยิ่งห่างจากพระธรรม
ศีลสงฆ์อันทรงจำ ก็ดับมอดตลอดไปฯ
*ฝ่ายสงฆ์ผู้ทรงธรรม แม้ทรงจำอยู่เต็มใจ
ทรงชีพตามวินัย ใช้ชีพนี้ให้มีธรรมฯ
*กลับถูกอลัชชี ที่มากมีเข้าครอบงำ
กลั่นแกล้งเป็นประจำ เร้นเล่ห์ร้ายป้ายสีทาฯ
*พระดีอยู่ลำบาก เป็นทุกฉากอันเต็มตา
ของยุคที่จะมา แต่ก็กาลอีกนานไกลฯ

ความหมาย ในอนาคตเมื่อมนุษย์ขาดศีลธรรม พระสงฆ์สาวกผู้รู้ผู้ประพฤติเที่ยงตรงต่อพระธรรมวินัยในบวรพระพุทธศาสนา และมีความแตกฉานในพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ กลับเห็นผิด ประพฤติผิด แทนท่จะนำเอาคำสอนของพระพุทธเจ้าเทสนาสอนชาวบ้านโดยไม่เห้นแก่อามิสสินจ้าง กบัลเลือกแสดงธรรมแต่เฉพาะผู้ที่ให้อามิสบูชากัณฑ์เทศน์เท่านั้น ด้วยเหตุนี้แลจึงทำให้ศาสนาเสื่อมถอย พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบก็ต้องถูกพวกอลัชชี ที่แฝงเข้ามาอาศัย แอบอ้างนำเอาไปเป็นเครื่องทือหากินในทางมิชอบ โดยไม่เกรงกลัวต่อบาปที่จะเกิดขึ้นกับตน และสร้างความเสื่อมเสียมาสู่พระสงฆ์ที่ประพฤติอยู่ในพระธรรมวินัยที่ดีทั้งหลายอีกด้วย

๑๒ น้ำเต้าจมน้ำ (ปัญญาชน คนดี ถูกรังแก) 
พระปเสนทิโกศลฝันว่า 

*น้ำเต้าที่ว่าเบา ไฉนเล่ามาจมชล
คิดดูสุดพิกล ผิดธรรมเนียมที่มีมาฯ

ความหมาย ฝันเห็นน้ำเต้าที่ปกติจะลอยน้ำ เพราะเอาเนื้อภายในออกหมดตากจนแห้งและน้ำหนักก็เบา แทนที่จะลอยน้ำกลับจมดิ่งลงไปยังพื้นโคลนก้นแม่น้ำ ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย รู้สึกว่าเป็นเรื่องแปลกและอาเพทมาก

พระพุทธเจ้าทรงทำนายว่า 
*นักปราชญ์ผู้รู้ธรรม จะตกต่ำจนไร้ค่า
รู้ชอบ รู้ดีมา แต่ไม่มีคนสนใจฯ
*เมื่อพาลมามียศ ทำชั่วชดแทนชีพใช้
ปดร้ายป้ายสีใส่ ต้องเสียชื่ออันชื่นชมฯ
*วาจาอันเป็นเท็จ เมื่อเบ็ดเสร็จก็อาจสม
แก่ใจอันชั่วจม ของคนพาลที่ครองเมืองฯ
*ธรรมเนียมที่สั่งสม ในสังคมต้องมาเปลือง
ทุกสิ่งที่รองเรือง ถูกละเลยเมินเฉยกันฯ 
*ที่ถูกชี้ว่าผิด ที่ตนคิดว่าสร้างสรรค์
บริวารเหมือนรู้ทัน เข้ายกคอยอเจ้านายฯ
*ผู้ดีจะเสื่อมสิ้น ผู้ชั่วชินไร้ยางอาย
เผ่าพงศ์ก็สิ้นสาย เมือ่ผู้ร้ายได้กินเมืองฯ
*ฝ่ายสงฆ์ก็ทรุดเศร้า ความชั่วเร้าจนเกิดเรื่อง
พระดีที่อยู่เมือง มาถูกแกล้งด้วยแรงพาลฯ
*พระชั่วที่หลงลาภ เหมือนถูกสาปให้ดักดาน
มัวเมาในทุนทาน ที่ศรัทธามาประเคนฯ
*เห้นผิดเป็นเชื้อชอบ เมือ่ชั่วครอบหลงประเด็น
เห้นธรรมเป้นกากเดน มองนิพพานเป้นมารมัวฯ
*อำนาจโฉดอยู่ในมือ เมื่อใช้คืออำนาจชั่ว
พระเลวผู้หมกมั่ว ก้ระรานผลาญพระดี

ความหมาย ในอนาคตเมื่อมนุย์ขาดศีลธรรมจักมีเหตุเพทภัยต่อบรรดานักปราชญ์ราชบัณฑิต พระอริยสงฆ์ผู้ประพฤติดีประพฤติชอบ รู้หลักธรรมที่ลึกซึ้งทุกคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะถูกเหล่าทรชนคนโง่เขลาเบาปัญญาที่มียศฐาบรรดาศักดิ์ 
และบริวารอันเป็นพาล ใช้อำนาจบาทใหญ่ขึ้นข่มขู่ จะใช้วาจาอันเป็นเท็จใส่ร้ายป้ายสีเพื่อให้สังคมเข้าใจผิด เพื่อเปิดทางสะดวกที่จะกีดกันคนดี นักปราชญ์และพระอริยสงฆ์ให้ออกห่างไปจากสังคม เปรียบเสมือนน้ำเต้าที่จมลงสู่พื้นโคลนก้นแม่น้ำ คำใดอันเป้นเท็จ จะเป้นที่ชืนชอบของคนในสังคมที่ผันแปรไปสู่ความวิบัติในภายภาคหน้า เพราะเหตุว่าคนในสังคมพากันเห้นความมืดเป็นความสว่าง หลอกตัวเอง ปล่อยตัวตามกิเลส เห้นว่าสิ่งที่ใจตนชอบนั้นเป็นสิ่งที่ดี บุชาความชั่วหยียบย่ำความดี พงศ์เผ่าเหล่ากอ ตระกุลที่ดีมีศักดิ์ศรีจะต้องถูกลูกหลานที่ชั่วช้าโง่เขลาเบาปัญญา นำพาพวกพ้องมาทำลายจนแตกสลาย ไม่มีความดีหลงเหลืออยู่เลย

๑๓ ศิลาลอยน้ำ (ผู้นำหูเบา)
พระเจ้าปเสนทิโกศลฝันว่า
*เห้นหินก้อนใหญ่ใหญ่ ลอยน้ำได้เหมือนใช้กล
ยิ่งเห็นยิ่งฉงน ไม่เข้าใจในภาพนั้นฯ

ความหมาย ฝันเห็นแท่งศิลาใหญ่เท่าตัวเรือน ซึ่งหนักมากนั้นกลับลอยฟองสบู่เหนือน้ำ ดูเป้นที่ประหลาดแก่ผู้พบเห้นยิ่งนัก

พระพุทธเจ้าทรงทำนายว่า 
*ภายหน้าผู้มีศักดิ์ จะเชื่อนักสอพลอพาล
หูเบาถูกเป่าปาน ขนนกฟ่องล่องลอยไกลฯ
*หลงเชื่อคำคนชั่ว ที่เน่าทั่วทั้งหัวใจ
แต่งตั้งเป้นนายใหญ่ ให้เป็นหนึ่งฝ่ายเสนาฯ
*คนชั่วได้อำนาจ ก้วางมาดเพราะได้ท่า
ได้ที ได้เวลา ก็แพร่ชั่วโดยทั่วไปฯ
*เชิดหน้าใช้ชีพทั่ว ไม่มองหัวใครเป็นใคร
บ้านเมืองเมื่อชั่วไช คอรัปชั่นก้ชักโยงฯ
*โดยทั่วเมื่อชั่วชิน ก็ทั้งสิ้น ชำนาญ "โกง"
แต่กรรมจะเปิดโปง ทุกความชั่วที่ตัวทำฯ

ความหมาย ในอนาคตเมื่อมนุษย์ขาดศีลธรรม บรรดาผู้มีอำนาจจะพากันหลงผิด คบหาแต่คนประจบสอพลอ ที่โกหกพกลงเก่ง มากเล่ห์เพทุบาย เต็มเปี่ยมไปด้วยความโง่เขลาเบาปัญญา นำมาเป้นพวกพ้อง และให้ทำงานที่สำคัญๆยิ่งไปกว่านั้นยังผลักดันให้ได้รับตำแหน่งใหญ่โต มีหน้ามีตา พรั่งพร้อมไปด้วยอำนาจในการสั่งการ ดุจความฝันที่ว่า"แท่งศิลาใหญ่เท่าบ้านลอยน้ำได้"หมายถึงผู้มีอำนาจใจเบาหูเบาดั่งปุยนุ่น ไร้วิจารณญาณ คนชั่วเหล่านี้เมื่อมีอำนาจก็จะสร้างความเสียหายให้บ้านเมืองและประเทศชาติในรูปแบบต่างๆ


๑๔ เขียดขยอกงู (หญิง-ชายต่างมั่วกาม)
พระเจ้าปเสนทิโกศลฝันว่า
*เขียดจ้อยไม่กลัวตาย กัดงูร้ายที่ใหญ่กว่า
ไส้พุงดึงออกมา เคี้ยวกลืนสิ้นกินไม่เหลือฯ

ความหมาย ฝันว่าเห็นกบกระโดดเข้าขบกัดงูเห่าจนตาย แล้วล้วงกินตับไตไส้พุงของงูนั้นจนหมอสิ้นอย่างรวดเร็ว

พระพุทธเจ้าทำนายว่า
*ภายหน้าทั้งชายหญิง มีความจริงอันควรจำ
หลงกามอันเกลือกกรำ ราคะแรงแฝงติดตัวฯ
*ชายนั้นเมื่อมัวเมา คลุกกามเคล้าไม่โงหัว
ตาบอดจนมืดมัว แล้วแต่กามจะนำไปฯ
*บ้ากามจนเสพติด ระดมคิดแต่กามใคร่
สมบัติมีเท่าใด ละลายกามตามแรงรินฯ
*หญิงนั้นก็กามหนัก แลกกามคลั่กด้วยทรัพย์สิน
เกลือกกลั้วจนเคยชิน ในกองกามอันกลืนใจฯ
*กระแสกามเมื่อมาแรง ย่อมนำแซงศีลธรรมไป
ใจคนก็ไร้ใจ ที่จะเพลินเจริญธรรมฯ

ความหมาย ในอนาคตเมื่อมนุย์ขาดศีลธรรมและโลกเข้าสู่ยุคเสื่อม พวกมนุษย์จะมีราคะจริตแรงกล้า ปล่อยใจตามอำนาจของกิเลสกระทำสิ่งชั่วช้า ผู้ชายยอมใช้ทรัพย์สมบัติทุกอย่างที่มีอยู่ และยอมจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆมาให้ผู้หญิงเพราะความหลงใหลในกามคุณ โดยไม่คำนึงว่าจะมีความเหมาะสมหรือไม่ กรหลงแบบหัวปักหัวปำเช่นนี้ ทำให้ผู้หญิงค่อยๆมีอำนาจเหนือชีวิตของฝ่ายชาย ฝ่ายชายที่หลงในกามรสเพราะกิเลสตัณหา ก็ยอมทำตามทุกอย่างโดยไม่ปริปากบ่นแม้แต่น้อย ในทางกลับกัน ผู้หญิงที่ติดในรสของกามก็ประพฤติตัวเช่นเดียวกัน

๑๕ 
หงส์ล้อมกา (คนดีเป็นบริวารคนชั่ว)
พระเจ้าปเสนทิโกศลฝันว่า
*ฝูงหงส์อันทรงศักดิ์ ไม่มีรักในพวกตน
ไปคบอยู่ปะปน ไปนอบน้อมต่อหมู่กาฯ

ความหมาย ฝันเห็นเหล่าหงส์ทอง ได้เข้าไปร่วมวงคบหาสมาคมกับฝุงกา และยอมเคารพนบนอบต่อกาทั้งหลาย โดยมิได้อดสูใจถึงฐานะของตนเลย

พระพุทธเจ้าทำนายว่า
*คนดีจะกันดาร เพราะพ้องพานกับคนชั่ว
ชีวิตยิ่งหมองมัว วงศ์ตระกูลจะสูญไปฯ
*หลงชูคนชั่วช้า ยกขึ้นมาให้เป็นใหญ่
นอบน้อมอย่างเต็มใจ ยอมมอบกายถวายตัวฯ
*คนชั่วเมื่อชั่วชวน ก้ชั่วถ้วนในมวลชั่ว
อำนาจเมื่อตามัว ก็ให้โฉดเป็นโทษแทนฯ
*คนชั่วกระทำชั่ว เดือดร้อนทั่วระอุแดน
เหลิงหลงอำนาจแม้น ใครตักเตือนก็เหมือนยุฯ
*คนดีอยู่ลำบาก เพราะชั่วหากเหมือนไฟคุ
คุกคามจนบรรลุ ประโยชน์รับที่ทับซ้อนฯ
*ปวงปราชญ์ต้องหลบหนี ที่ยังมีต้องถูกตอน
ถูกตอก"อย่ามาสอน" ความรู้ดีมีอยู่แล้วฯ

ความหมาย ในอนาคตเมื่อมนุษย์ขาดศีลธรรม คนดีมีตระกูล มีความรู้สูงส่งทำความดีมา สั่งสมชื่อเสียงมาตลอด เป้นที่เชื่อถือแก่คนทั่วไป แต่หลงผิดลดตัวลงมาเกลือกกลั้วสมาคมกับคนชั่วที่ไร้สกุลรุนชาติ ส่งเสริมสนับสนุนคนชั่ว พวกนี้ให้มีอำนาจ มียศถาบรรดาศักดิ์ ให้มีหน้ามีตาในสังคม และมีบทบาทในวงราชการ เมื่อมีอำนาจอยู่ในมือ คนเหล่านี้ก็หลงในอำนาจ ลืมตน ใช้อำนาจเบียดเบียนประชาชน หาประโยชน์จากการมีอำนาจ สร้างความมั่งคั่งให้ตนเอง อำนาจทำให้ลืมตน และใช้อำนาจที่มีอย่างผิดๆกับบุคคลทั่วไปด้วยความดง่เขลาเบาปัญญา ประชาชนทั่วไปเดือดร้อนโดยทั่วกัน

๑๖ เนื้อไล่เสือ (คนดีไร่ค่า)
พระเจ้าปเสนทิโกศลฝันว่า
*เห็นเนื้อทรายไล่เสือ เรื่องเหลือเชื่อในความฝัน
เสือใหญ่หนีไปพลัน ทั่วพื้นป่าน่าแปลกใจฯ

ความหมาย ฝันเห็นเหล่าเนื้อทราย กวาง กวดไล่เสือ เสือที่เคยดุร้ายกลับวิ่งหนีหัวชุกหัวซุน เข้าไปหลบซ่อนตัวในป่าใหญ่ ช่างเป็นที่น่าอัศจรรย์นัก

พระพุทธเจ้าทรงทำนายว่า
*ผู้นำที่โง่เขลา อยู๋ใต้เงาความโง่งม
เลือกคนใจชั่วจม เป็นลิ่วล้อบริวารฯ
*คนชั่วโดยเชื้อชาติ ก็ชั่วคาดโดยใจพาล
คนดีโดยงานนาน จึงถูกรานจากโฉดชนฯ
*ถูกหยามให้เสียเกียรติ อำนาจเบียดยิ่งทุกข์ทน
รังควานความเป็นคน คุกคามขรมด้วยลมพาลฯ
*ยกต้นขึ้นเทียมชั้น อวดอ้างนั้นเกินผลงาน
สร้างภาพอย่างหน้าด้าน แผ่ความเขลาทับเงาตนฯ
*ยิ่งหลงในอำนาจ ยิ่งทั้งชาติเข้าตาจน
บริวารยิ่งพานพัน สร้างกระแสแหตามกันฯ
*ตัวตนอันเติบโต ตามคำโวที่ทบทัน
ใหญ่เกินใครจะยัน ได้แต่ยอมค้อมหัวรอฯ
*ยุคนี้พระดีหน่าย เบื่อพระร้ายที่บ้ายอ
หลงยศไม่รู้พอ เมาตัณหาที่มารุมฯ
*เหยียบย่ำพุทธพจน์ ในใจคดกิเลสสุม
พระชั่วอันชุกซุน จะยิ่งใหญ่ในมณฑลฯ

ความหมาย ในอนาคตเมื่อมนุษย์ขาดศิลธรรมและโลกเสื่อมทราม ผู้มีอำนาจหูเบาเชื่อฟังที่ปรึษาและบริวารชั่ว ลิ่วล้อเหล่านี้มีอำนาจเหนือเจ้าหน้าที่ของรัฐในทุกกระทรวงทบวงกรม แม้ศาลสถิตยุติธรรมก็ไม่เว้น คนพวกนี้ใช้อำนาจเบียดเบียนชาวบ้านทันทีที่มีโอกาสด้วยเล่ห์เหลี่ยมทางกฏหมายเพื่อให้ตัวเองและพวกได้ประโยชน์ เช่น ฮุบเอาที่ดินมาเป็นของตนและบริวารชาวบ้านที่ขัดขวางขะได้รับอันตราย และถูกคุกคามในรูปแบบต่างๆ แม้กระทั่งถูกแกล้งจนติดคุกติดตาราง และในยุคเช่นนี้ ภิกษุชั่วจะรังแกภิกษุผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ จนต้องหลบไปอยู่ตามป่าตามเขาเป็นจำนวนมาก เป็นยุคที่คนชั่วเฟื่องฟู....

Source: http://larndham.org/index.php?/topic/30952-%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2-%E0%B8%A4%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%84/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น