วันอังคารที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2554

บทสัมภาษณ์มนุษย์ต่างดาว...ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน...

บทสัมภาษณ์มนุษย์ต่างดาว 2 คน.......ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน...... 
**บทสัมภาษณ์ระหว่างนายแพทย์ไทยกับมนุษย์ต่างดาวจากดาวอังคาร ชื่อ พาราซิทัลและดาวศุกร์ ชื่อ เอ็ดดี้**



1.ถาม-(หมอเทพนมฯ) ทำไมท่านจึงมาติดต่อกับผม เพราะบังเอิญหรือเพราะอะไร?

ตอบ-การมาติดต่อกับท่าน ไม่ใช่เพราะเหตุบังเอิญ พวกเราติดต่อกับสายพันธุ์เดียวกันเท่านั้นหรือจะเรียกตามภาษามนุษย์ว่า มีกรรมพัวพันกันก็ได้ มนุษย์ต่างดาวจะมาที่โลกนี้ใน 3 รูปแบบ คือ

1)มาในรูปมนุษย์ต่างดาว อย่างพวกเราขณะนี้

2)มาในแบบถูกส่งมาจุติให้เป็นมนุษย์ ท่านได้ถูกส่งลงมายังโลกนี้ห้าพันกว่าปีแล้ว มีหน้าที่ประสานงานระหว่างมนุษย์กับต่างดาว

3)วิญญาณของมนุษย์ต่างดาวเข้าสิงอยู่ในตัวมนุษย์

2.ถาม-วิญญาณหรือจิต มีจริงหรือไม่?

ตอบ- วิญญาณ หรือจิต หรือพลังงานชีวิต มีจริง ในสิ่งที่มีชีวิตทั่วจักรวาล พลังชีวิตนี้ ไม่มีใครทำลายได้ เมื่อมนุษย์ตาย ร่ายกายเน่าเปื่อยไป แต่วิญญาณยังคงอยู่ และจะต้องไปจุติตามการกระทำ หรือกรรมที่ตนทำไว้ อาจไปเกิดเป็นสัตว์ก็ได้ พวกที่เกิดเป็นมนุษย์อีก มักเกิดใกล้สถานที่ที่กำเนิดในชาติก่อน มีจำนวนน้อยที่ไปเกิดข้ามทวีป และมีจำนวนน้อยมากอย่างยิ่ง ที่ไปเกิดในอีกดาวหนึ่ง......


ภาพถ่ายแสงออร่าของหมอเทพนมฯขณะเข้าสมาธิจิตติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว โปรดสังเกตุแสงสีขาวด้านบนแผ่กว้างคลุมโดยรอบ แสดงว่าสภาวะจิตสงบลึกมาก นิ่ง สว่าง มีภูมิจิตภูมิธรรมสูงมาก อยู่ในขั้นบรรลุธรรมขั้นสูงในระดับหนึ่งแล้ว....Webmaster

3.ถาม-ท่านนับถือศาสนาอะไร? มีศาสนาแบบมนุษย์ไหม?

ตอบ-พวกเรานับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดเหมือนกัน มีองค์เดียวที่สูงสุด และทุกชีวิตมาจากหนึ่งเดียวนี้ ตามความจริงซึ่งท่านจะได้เรียนรู้และทราบในศตวรรษใหม่ที่จะมาถึง ในจักรวาลอันกว้างใหญ่นี้ มีพระผู้สร้าง หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดอยู่ 1 องค์ ที่สร้างทุกอย่างในจักรวาลขึ้นมาแต่เริ่มแรก แต่การบริหารจัดการกับสิ่งมีชีวิตต่างๆนั้น มีคณะกรรมการจัดการระหว่างดวงดาว ซึ่งบรรดาศาสดาต่างๆของโลกมนุษย์ก็เป็นกรรมการอยู่ ศาสนาทุกศาสนาสอนให้คนทำดี ไม่ควรมาเปรียบเทียบกันว่าศาสนาของฉันดีกว่าศาสนาของเธอ เพราะศาสดาทุกท่าน ก็มาจากที่เดียวกันหมด และถูกส่งลงมาช่วยพัฒนาจิตใจมนุษย์เป็นระยะๆไป.....

4.ถาม-ท่านอายุเท่าใด? และพวกท่านมีตายบ้างไหม?

ตอบ(ท่านพาราซิทัล)-เราอายุหลายพันปี ตั้งแต่เราเกิดมาจนถึงปัจจุบัน เคยเห็นพวกเราตายแค่ 3 คน ตายจากอุบัติเหตุยานอวกาศตก ทางด้านโรคต่างๆ เราสามารถพิชิตได้หมดแล้ว ขอให้ถามท่านเอ็ดดี้ ผู้ตรวจจักรวาลบ้าง

ท่านเอ็ดดี้- ท่านพาราซิทัลพูดถูกต้องแล้ว พวกเราอายุยืนมาก......


5.ถาม-ขอให้ท่านให้ความกระจ่าง เกี่ยวกับมนุษย์คู่แรกบนโลกนี้ว่า มาจากไหนกันแน่? มาจากลิงใช่หรือไม่?

ตอบ-มนุษย์ไม่ได้พัฒนามาจากลิงอย่างที่เข้าใจกัน ตามความเป็นจริง มนุษย์เพศชายคนแรกที่พวกท่านเรียกว่า"อาดัม"นั้น ถูกสร้างขึ้นมาที่ดาวนพเคราะห์ดวงหนึ่งนอกระบบสุริยะของท่าน พระผู้สร้างได้ให้พวกเรา นำมนุษย์ผู้นั้นมาไว้ยังโลกนี้ และต่อมาได้สร้างมนุษย์เพศหญิง ที่พวกท่านเรียกว่า "อีฟ" ขึ้นมาอีกคนหนึ่ง และให้นำมาอยู่ด้วยกัน จนสืบเชื้อสายมีลูกหลานกันมากมายไปทั่วโลก พวกเราเปรียบเสมือนบรรพบุรุษของพวกท่านเหมือนกัน มีหน้าที่คอยดูแลช่วยเหลือพวกท่านอยู่เสมอมา ในระยะ 200 กว่าปีที่ผ่านมา มนุษย์เจริญทางวิทยาศาสตร์ขึ้นมามาก แต่ทางด้านศีลธรรม และจริยธรรม กลับพัฒนาได้น้อยมาก เมื่อมนุษย์ค้นพบพลังงานใหม่ เช่นพลังปรมาณู ก็นำไปใช้สร้างอาวุธทำลายล้างกัน แทนที่จะนำไปใช้ในด้านพัฒนาสุขภาพและสันติภาพ......


6.ถาม-ถ้าพระผู้สร้างมีจริง และเป็นผู้สร้างทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งสิ่งที่มีชีวิต และสิ่งไม่มีชีวิตขึ้นมาจริงอย่างที่ท่านบอก สิ่งนี้ขัดแย้งกับกฎแห่งกรรมของพุทธศาสนาหรือไม่?

ตอบ- พระผู้สร้าง ได้สร้างทุกอย่างในจักรวาลขึ้นมา แต่ท่านได้ให้อิสระเสรีภาพกับมนุษย์ทุกคน ที่จะทำดี หรือทำชั่วก็ได้ หากทำดี ก็ได้รับผบตอบแทนที่ดี ทำชั่ว ก็ได้รับผลตอบแทนที่ไม่ดี นับว่ายุติธรรมที่สุดแล้วไม่ใช่หรือ? ฉะนั้น ไม่ขัดแย้งกับกฎแห่งกรรมของพุทธศาสนาเลย และนี่คือ ความจริงของกฎจักรวาล........


7.ถาม-สิ่งมีชีวิตในจักรวาลอันกว้างใหญ่นี้ แบ่งเป็นระดับอย่างไรบ้าง? และพวกท่าน(มนุษย์ต่างดาว)เป็นผี หรือเทวดา หรืออะไรกันแน่?

ตอบ-พลังงานชีวิต หรือจิตวิญญาณในจักรวาลนี้ แบ่งเป็นระดับต่างๆมากมาย จะเรียกว่า "ภพภูมิ" หรือ"มิติ"ก็ได้ มนุษย์อยู่ในมิติที่ 3 มีความกว้าง ยาว ลึก แต่ไม่สามารถควบคุม"เวลา"ได้ พวกเราอยู่ในมิติสูงกว่าพวกท่านหลายมิติ เราอยู่สูงกว่ามิติ"ผี" แต่เราก็ยังไม่ใช่พวกเทพ หรือพรหม อย่างที่พวกท่านเชื่อว่ามี เราเป็น"มนุษย์"อีกชนิดหนึ่ง ที่อยู่ยังดาวดวงอื่น มีความเจริญทางวิทยาศาสตร์ และศีลธรรมสูงกว่าพวกท่านมาก ความโกรธ โลภ หลง ในพวกเรา แทบไม่มีเหลืออยู่เลย เรามีจิตวิญญาณที่เป็นอมตะแบบพวกท่าน แต่เราก็มี"ร่าง" ที่ไม่คล้ายกับพวกท่านนัก และมี"ยานบิน" ที่ทำให้เราเดินทางไปยังดาวต่างๆได้อย่างรวดเร็วกว่าแสง พวกเราเป็นสมาชิกของสมาคมระหว่างดวงดาว ซึ่งมนุษย์ยังไม่ได้เป็น แต่คาดว่า มนุษย์คงสามารถพัฒนาตัวเองให้เข้าเป็นสมาชิกได้ในศตวรรษที่ 21 นี้ หากมนุษย์สามารถลดกิเลส โกรธ โลภ หลง ลงได้ เทวดาและพรหมนั้นมีจริง เราสามารถติดต่อได้ทางจิต แต่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกัน พวกเขามักเรียกพวกเราว่า"มนุษย์พิเศษ" ส่วนผีนั้น ไม่มีร่างถาวร มีแต่จิต และส่วนมาก ไม่สามารถออกไปจากโลกนี้ได้เกิน 50 กม. เพราะมีสิ่งที่บังคับควบคุมไว้ แต่"มนุษย์ต่างดาว"ไม่มีข้อจำกัดนี้......


8.ถาม-มนุษย์ต่างดาว จะมายังโลกนี้ ต้องได้รับอนุญาตจากใครก่อนหรือเปล่า?

ตอบ- มนุษย์พิเศษจากดาวอื่นๆ จะมายังโลกนี้ ต้องขออนุญาตจากสมาคมระหว่างดวงดาวก่อนเสมอ หรือถูกส่งให้มาช่วยเหลือในบางเรื่อง แต่เมื่อมาถึงโลกนี้ ก็ยังต้องรายงานกับ"ผู้ตรวจโลก" ซึ่งมีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยอยู่ มนุษย์ต่างดาวที่แอบมาก็มีเหมือนกัน คือ มาโดยไม่ขออนุญาตก่อน ส่วนมากพวกนี้เป็นพวก"ไม่ดี" ซึ่งมีอยู่เหมือนกัน แต่เป็นจำนวนน้อย ปีที่แล้ว มีพวกกลุ่มไม่ดี ได้แอบเข้ามาในโลกของท่าน ด้วยยานอวกาศลำใหญ่ขณะมิติเปิด ขณะนี้สำหรับประเทศไทย กลุ่มไม่ดีลอยอยู่ในบริเวณเขาผีปันน้ำ ในภาคเหนือของประเทศท่าน หากพบยานบินสีดำ อย่าไปยุ่งเกี่ยวด้วย อันตรายมาก......




9.ถาม-มนุษย์ต่างดาวเช่นพวกท่าน หน้าตาคล้ายพวกเราไหม? หายใจด้วยออกซิเจนหรือไม่? กินอาหารและขับถ่ายอย่างไร?

ตอบ-ผู้ที่มาจากดาวดวงอื่น ที่มีหน้าตาคล้ายมนุษย์มากที่สุด คือ พวกที่มาจากกลุ่มดาวลูกไก่ และดาวพระศุกร์ เราจากดาวอังคาร(ท่านพาราซิทัล) หน้าตาไม่เหมือนพวกท่าน ตาจะใหญ่ดำ คางแหลม แบบในรูปที่ท่านวาดไว้ สูงกว่ามนุษย์ มือมี 3 นิ้ว และไม่มีอวัยวะเพศทั้งชายและหญิง แต่รู้ว่าใครเป็นเพศชาย เพศหญิง มนุษย์ต่างดาวเพศชาย มักตัวโตกว่าผู้หญิง เราไม่หายใจด้วยออกซิเจน แต่หายใจด้วยคาร์บอนไดออกไซด์ ที่ได้รับการปรับปรุงแล้ว เรามีปากเล็กๆ จมูกเล็กๆ ไม่กินอาหารเหมือนพวกท่าน เรากินพลังงานชนิดหนึ่ง กินหนึ่งครั้งอยู่ได้หลายเดือน เราไม่มีกระเพาะอาหาร ลำไส้ ทวารหนัก ฉะนั้นพวกเราไม่ต้องขับถ่ายทั้งหนักและเบาระหว่างเดินทางในอวกาศ ความแตกต่างเหล่านี้ เป็นของธรรมดา "ท่านเอ็ดดี้" ก็หน้าตาเป็นสี่เหลี่ยม ตากลมใหญ่ แปลกไปจากเราอีก แต่เขาใจดีมากนะ หน้าตาแตกต่างกัน ไม่ได้หมายความว่าคุยกันไม่ได้.....




10.ถาม- ผมอยากถามว่า มาตรฐานของดาวอังคาร ดูเพศชายว่าหล่อ หรือเพศหญิงว่าสวย เหมือนมนุษย์ดูหน้าตาและรูปร่างหรือเปล่า?

ตอบ- ไม่ใช่เลย ความหล่อและความสวย ไม่มีความสำคัญในโลกของเราเลย เราดูความ"งาม"ของเพศตรงข้าม คือ 1)ดูว่ารัศมีออร่า ที่ออกมารอบตัวและศีรษะของเขา เป็นสีที่บริสุทธิ์ เช่น สีขาวมากน้อยแค่ไหน? 2)ดูที่ความคิดอ่านของเขา เวลาเขาคิด ก็ออกมาเป็นคลื่นไฟฟ้า ให้พิจารณาได้แล้วว่า คิดดี คิดบริสุทธิ์หรือไม่? ถ้าคิดดี คิดถูกต้อง วาจาและการกระทำที่ตามมาก็จะดีตาม พวกเราถือสัจจะสำคัญกว่าชีวิต ไม่มีการพูดปดกันหน้าตาเฉย อย่างในโลกมนุษย์เลย เพราะหากพูดปด อีกฝ่ายก็ทราบทันที และตัวเองก็ไม่กล้าทำเช่นนั้นเลย.......

11.ถาม-พวกมนุษย์สงสัยว่า ถ้าท่านไม่มีอวัยวะสืบพันธุ์ ท่านมีลูกกันได้อย่างไร? แต่งงานกันหรือไม่?

ตอบ- พวกเราเคยมีอวัยวะสืบพันธุ์ ตั้งนมนานมาแล้ว แต่หลังจากมีการพัฒนาทางด้านโคลนนิ่งมากเข้า เพศหญิงไม่ต้องอุ้มท้อง 9 เดือน แบบผู้หญิงของท่าน เพราะไม่ยุติธรรมต่อเพศหญิง เมื่อพัฒนาโน่นนี่กันมากขึ้น อวัยวะเพศก็หย่อนความสำคัญลงไป ไม่ค่อยได้ใช้กันบ่อย ขณะนี้ถ้าเราชอบพอกัน อยากไปใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน เราก็มีพิธีแต่งงานง่ายๆ มีคล้ายพระ ทำพิธีให้ และไปอยู่ด้วยกัน มีบ้านที่รัฐบาลสร้างไว้ให้แล้ว เมื่ออยากมีลูกกัน ทั้ง 2 คนก็ยืนจ้องตากัน เอา 2 มือแตะกัน "ปิ๊ง"เดียว ลูกตัวเล็กๆก็ลอยลงมาในแคปซูลน้อยๆ และก็เลี้ยงให้โตขึ้นมา ต้องไปเข้าโรงเรียนด้วย คล้ายของมนุษย์ ทุกครอบครัวถูกกำหนดว่า มีลูกได้ไม่เกิน 2 คน หากมีเกิน 2 คน จะถูกลงโทษ คือ ตายไปแล้ว ไม่ได้เกิดอีกเลย ซึ่งทุกคนกลัวมาก บางดาวแค่จ้องตากัน ก็มีลูกได้แล้ว แปลกไหม? ต่อไปโลกของท่าน อาจเป็นแบบของเราก็ได้........




12.ถาม-โลกดาวอังคารของท่าน ทำไมสหรัฐอเมริกา ส่งจรวดไปแล้ว ไม่เจอผู้คนเลย และท่านมีระบบการปกครองอย่างไร?

ตอบ-โลกของเรา เคยมีบรรยากาศ มีน้ำ เช่นโลกของท่าน แต่พวกเรากันเอง ก็ทำลายสิ่งแวดล้อมจนหมดสิ้น และทำสงครามกันด้วย คนต้องหนีลงไปอยู่ใต้ดินสำหรับผู้ที่รอดตาย เราอยู่ลึกลงไปหลายกิโลเมตร เรายังใช้ระบบบการปกครอง ที่มีหัวหน้า คล้ายพระเจ้าแผ่นดิน ทุกคนก่อนเกิด ถูกกำหนดไว้แล้วว่า ต้องเกิดมาเป็นเพศอะไร? และโตขึ้นทำอาชีพอะไร? เช่น เราถูกกำหนดให้เกิดเป็นทหาร จะเป็นอย่างอื่นไม่ได้ โลกของท่านดีกว่า ที่เกิดแล้วเลือกเรียนอะไรก็ได้ตามใจชอบ จะเป็นคนดีหรือคนชั่ว ก็ขึ้นอยู่กับตัวเอง โลกของเราต้องเป็นคนดีเท่านั้น เป็นคนเลวไม่ได้ คนเลวจะถูกกำจัดออกไปทันที และไม่ได้เกิดอีกเลย......

13.ถาม-โลกของท่านมีนรกและสวรรค์ไหม? และการกลับชาติมาเกิดมีจริงหรือไม่?

ตอบ-ในระบบสุริยะของพวกเรา ในทางช้างเผือก มนุษย์เป็นดาวนพเคราะห์ดวงเดียว ที่มีทั้งนรกและสวรรค์ ดาวนพเคราะห์อื่นๆไม่มี เพราะเขาทำดีกันหมด ไม่มีคนทำชั่ว ที่ต้องถูกไปลงโทษในนรก แต่โลกของท่าน ก็มีดี ที่ตายไปแล้วได้เกิดอีก ขึ้นอยู่กับการกระทำของท่าน ถ้าท่านทำดี ชาติต่อไป ก็ดีขึ้นกว่าเดิมม หากทำชั่ว ก็ตกนรก หรือเกิดเป็นสัตว์ หรือมนุษย์ที่แย่กว่าเดิม การกลับชาติมาเกิด มีจริง ส่วนมากจะเวียนว่ายตายเกิดในโลกของตัวเอง บางคนอาจจะเกิดข้ามดาว แต่มีน้อยมาก ที่จะทำได้เช่นนั้น ต้องพิเศษจริงๆ.....




14.ถาม-ผมมีรูปถ่ายจากแฟ้มลับของเคจีบี ที่เพิ่งเปิดเผย อ้างว่าเป็นภาพจานบินตกในรัสเซีย ราว 40 ปีมาแล้ว และมีมนุษย์ตัวเล็กๆสีเขียวตายอยู่ในนั้น และเขานำมาผ่าศพดู ท่านดูแล้วคิดว่าภาพเหล่านี้เป็นของจริงหรือภาพหลอกลวง?

ตอบ-จานบินตกทั่วโลกมาแยะแล้ว ในรัสเซีย ในจีนก็ตกหลายครั้ง ในประเทศไทยของท่าน ก็ตกที่ อ.สันกำแพง จ.เชีงใหม่ ในปี ค.ศ.1958 ท่านเอ็ดดี้รู้ดี เพราะรอดมาได้ รูปที่รัสเซียเปิดเผยนั้น เป็นรูปจริง มนุษย์ต่างดาวตัวเล็กๆเขียวๆ มี 4 นิ้ว ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ ถ้าเขามาจากดาวดวงอื่น จะให้รูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์ คงเป็นไปไม่ได้ น่าสงสารเขานะ.....

15.ถาม-เพื่อนของผม ถ่ายภาพมนุษย์มีแสงออกมาจากตัว ที่ อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี เมื่อเดือนมีนาคม 2542 เวลากลางคืน ท่านบอกได้ไหมว่า เขาเป็นชาวบ้านหรือมนุษย์ต่างดาว หากเป็นมนุษย์ต่างดาว เขามาทำไมในป่าทึบ?

ตอบ- ผู้ที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ แต่มีแสงออกมาจากตัว ไม่ใช่มนุษย์แน่นอน จ.กาญจนบุรี เป็นพื้นที่ที่มิติเปิด คล้ายสามเหลี่ยมเบอมิวดา และบรรดายานอวกาศต่างๆ สามารถผ่านเข้า-ออกได้ง่าย นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งสำคัญแห่งหนึ่งของโลก ที่มีแร่ธาตุหายาก ที่ใช้ในการเดินทางในอวกาศ เราเคยบอกท่านแล้ว เกี่ยวกับแร่ธาตุชนิดนี้ ว่าคล้ายแร่ธาตุที่ท่านเรียกว่า"เหล็กไหล"ไงล่ะ เราจะไม่บอกว่า เขามาจากที่ไหน บอกแต่เพียงว่า เขาไม่ใช่มนุษย์และไม่ใช่ผี!!!......




16.ถาม-เมื่อ 6 สิงหาคม 2542ผมได้รับเชิญจากองค์การนาซ่าและInternational Space University ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมาจัดประชุมอยู่เงียบๆอยู่ที่มหาวิทยาลัยสุรนารี ให้ไปพูดถึงเรื่อง"การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับยูเอฟโอ และผู้ขับขี่ยานบินในประเทศไทย พ.ศ.2540-2542" และได้รับคำชมเชยจากฝรั่งนักวิชาการ 300 กว่าคนว่า ทำวิจัยได้ดีมาก ท่านคิดอย่างไรกับเรื่องที่นาซ่าคิดจะไปยึดดาวอังคารทำเหมืองแร่ และส่งคนไปอยู่ 50,000 คน ใน 20 ปีข้างหน้านี้ และทำไมจานบินของท่านมาแล้ว ไม่ยอมบินลงมาต่ำตามที่ขอร้องให้ฝรั่งเห็นทั่วกัน?

ตอบ-เราไปฟังอยู่ตลอดเวลา และไม่พอใจอย่างมาก ที่เขาคิดจะไปยึดดินแดนที่มีเจ้าของแล้ว เช่นที่เคยทำมาในโลกนี้ในอดีต ขอบอกสั้นๆว่า หากรบกัน ก็ไม่มีทางสู้พวกเราได้ ขอให้บอกแก่พวกเขา 3 ข้อ คือ

1)จานบินและมนุษย์ต่างดาวนั้น มีจริง และได้มาเยือนโลกนี้ เป็นเวลานานหลายพันปีแล้ว มนุษย์เปรียบเสมือนลูกหลานของเรา

2)มนุษย์ต่างดาว ไม่ต้องการมายึดครองโลกนี้ ในทำนองเดียวกัน มนุษย์ก็ไม่ควรคิด จะไปยึดครองดวงดาวของเรา เพราะมีเจ้าของแล้ว และไม่มีทางสู้เราได้

3)ขอให้มนุษย์ใช้สติปัญญา ความคิดสร้างสรรค์ พัฒนาโลกนี้ดีกว่า รวมทั้งเตรียมรับภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งใหญ่หลวงที่จะเกิดขึ้นในโลกนี้ในปีหน้า(ค.ศ.2000 หรือ พศ.2543)

ยานอวกาศของเรา ได้บินไปให้ท่านและบางคนเห็นแล้ว เราไม่บินลงต่ำ เพราะคิดว่าจะไม่มีประโยชน์อะไรกับพวกที่คิดจะไปยึดดาวของเรา.....




17.ถาม- เมื่อ 19 มีนาคม 2539 มีผู้ถ่ายภาพประหลาดได้ ที่พระเมรุพระบรมศพสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี แสงนั้นเป็นแสงอะไร?(จะนำลงภาพปาฏิหาริย์ในเว็บฯนี้ต่อไป-Webmaster)

ตอบ-ขอตอบสั้นๆว่า กลุ่มเทพชั้นสูงมาแสดงคารวะต่อพระบรมศพ ไม่ใช่จานบินมาอย่างที่เข้าใจกัน.....

18.ถาม-ผมได้รับเชิญให้ไปพูดในสัปดาห์วิทยาศาสตร์ของ ม.สงขลานครินทร์ เมื่อ 19 สิงหาคม 2542 ซึ่งท่านได้สั่งให้ผมไปพูดเตือนชาวใต้เกี่ยวกับปี 2000 แต่ทำไม"จานบิน" ไปปรากฏที่อ่างเก็บน้ำของ ม.สงขลาฯ ทุกคืน เป็นเวลาถึง 10 วัน ก่อนผมไปถึง ผมไม่ได้ร้องขอมากเพียงนั้น........




ตอบ-เราเป็นห่วงชาวใต้ของท่านมาก เกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ จึงไปหลายครั้ง ในปีหน้า เราจะพยายามช่วยให้หนักกลายเป็นเบา ได้ขอให้ท่านพูด อย่าให้เขาตกใจกลัว จนขาดสติ ที่บอกเขาว่า ให้ช่วยเหลือกัน มีความเมตตากรุณาต่อกันมากขึ้นนั้น ดีแล้ว ให้หมั่นสดับรับฟังข่าวสารต่างๆอยู่เสมอ รู้จักที่ๆปลอดภัย หากเกิดภัยพิบัติ อย่าประมาท เราหวังว่า ทุกท่านจะปลอดภัยในปีหน้า 2543 ส่วนคืนวีนที่ 19 สิงหาคม 2542 อากาศไม่ดี เราบินกันมา 3 ลำ ในระยะสูง แต่ให้ท่านถ่ายภาพได้ชัดๆ ตั้งแต่หัวค่ำแล้วไม่ใช่หรือ? ที่ดูคล้ายดวงอาทิตย์นั่นแหละ......

สรุปว่า ตั้งแต่ต้นปี จนถึงเดือนกันยายน 2542 ขณะเขียนต้นฉบับอยู่นี้ ผู้เขียนได้ติดต่อกับท่านพาราซิทัล และท่านเอ็ดดี้เป็นประจำ เดือนละ 1-2 ครั้ง เป็นอย่างน้อย ซึ่งครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2542 ยูเอฟโอ ได้มาปรากฏให้เห็น เวลา 20.15 น.ที่เหนือบ้านผู้เขียนใน กทม. มีผู้พบเห็น และถ่ายภาพได้จำนวนมาก ซึ่งจากการสื่อด้วยโทรจิต พวกเขาบอกว่า บินผ่านทางจึงแวะลงมาเยี่ยมเยียน......สิ่งที่นำมาเล่าให้ฟัง เป็นสิ่งที่ได้รับสื่อทางจิต จากผู้ที่อ้างว่าเขามากับยานบิน และยังมีรายละเอียดอีกมากมาย ที่ผู้เขียนได้จดบันทึกไว้

อย่างที่บอกกับท่านผู้อ่านไว้แล้วว่า สิ่งที่เล่ามาให้ฟัง ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ เพราะไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยัน เหมือนกับการถ่ายภาพยานบินได้ ก็ได้แต่บันทึกไว้ และรอเปรียบเทียบกับความจริงต่างๆ ที่จะค่อยเผยออกมาทีละน้อยๆ ในอนาคตอันใกล้นี้ "ความจริงเท่านั้น ที่จะช่วยให้มนุษย์เราหลุดพ้นจากความโง่เขลาทั้งปวง".......(จบบริบูรณ์)



ขอบคุณข้อมูลจากhttp://www.h4wkz.com/forums/index.php?topic=347.0(ก๊อปมา)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น