วันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

SHUTTER กดติดวิญญาณ !!!




ชื่อคลิป : จับภาพผี_มิติลี้ลับ CH7
รายละเอียด : จับภาพผี_มิติลี้ลับ CH7มิติลี้ลับเรื่องๆ...ผีๆ 26.04.2009 - 17:10:55 ภาพเงาปริศนาในห้องน้ำ ทีมงานถ่ายทำมิติลึกลับ ถึงกับขนหัวลุกซู่ ! เจอภาพปริศนาสีขาว ลอยละล่องอยู่บนจอภาพ หลังไปดักถ่ายภาพเหตุการณ์ลี้ลับพิศวงช่วงดึกสงัด ในตึกแถว 3 ชั้นย่านรามอินทรา ยกกองถ่ายติดตั้งกล้องพร้อมกับ เครื่องตรวจจับคลื่นแม่เหล็กไว้หน้าห้องน้ำ ตามคำเชื้อเชิญเจ้าของตึกที่โทรมาเล่าเรื่องเขย่าขวัญฟังว่า ได้ยินเสียงหญิงสาวกรีดร้อง แถมมีการใช้ชักโครกในห้องน้ำ ที่ถูกปิดตายแล้ว ล่าสุดให้อาจารย์มหาวิทยาลัย ช่วยตรวจสอบภาพปริศนาหลายสิบรอบ ยังไม่ขอออกความเห็น แต่กล่าวในแง่เทคนิคโทรทัศน์สามารถตัดต่อได้ เรื่องราวความฮือฮาภาพปริศนาครั้งนี้ได้รับการเปิดเผยขึ้น เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 19 ก.ย. ผู้สื่อข่าวตระเวนเดลินิวส์ ได้รับการติดต่อจากทีมงานตากล้องที่ไปถ่ายทำรายการเกี่ยวกับเรื่องมิติลี้ลับ ของโทรทัศน์ช่องหนึ่งว่า สามารถบันทึกภาพปริศนาที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นภาพอะไร จากการไปถ่ายทำรายการที่ตึกแถว 3 ชั้นครึ่งคูหาเดียว แห่งหนึ่ง ย่านรามอินทรา กม.8 โดยทางทีมงานขอร้องว่า ทางเจ้าของบ้านยังไม่อยากเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับบ้านเลขที่ เนื่องจากเกรงว่าจะประสบปัญหาทำให้เพื่อนบ้านข้างเคียงเกิดความหวาดกลัว นอกจากนี้ยังเกรงว่าประชาชนจะพากันเดินทางแห่ไปดูพิสูจน์ความจริง ทีมงานถ่ายทำคนหนึ่งเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 2 อาทิตย์ ได้รับการติดต่อ จากเจ้าของบ้าน(ไม่ขอเอ่ยนาม) โทรมาเรื่องราวให้ฟังว่า ที่บ้านอาศัยอยู่ด้วยกันพ่อแม่ลูก 5 คน เข้ามาอยู่นานกว่า 4 ปีแล้ว ระหว่างเข้ามาอยู่อาศัยทุกคนในบ้าน ต่างก็ประสบ พบเจอกับเหตุการณ์แปลกประหลาดคล้ายกันถ้วนหน้า อาทิ จะได้ยินเสียงลักษณะคล้ายกับมีคนเคาะประตู ฝาผนังห้อง หรือเสียงผู้หญิงร้องในห้องน้ำ บางคืนก็จะมีกลิ่นหอมของดอกราตรีโชยตลบอบอวล ทั้งที่ในบริเวณ ย่านใกล้เคียงไม่มีบ้านหลังไหนปลูกต้นราตรีไว้แต่อย่างใด ล่าสุดที่ได้ยินพร้อมๆกันก็คือ เสียงคนใช้ชักโครกในห้องน้ำบนบ้านชั้น 3 ที่ปิดไม่ได้ใช้นานแล้ว เมื่อขึ้นไปดูก็ไม่พบส่งผิดปกติ แต่ถึงจะมีเสียงแปลกประหลาดอย่างไรคนในบ้านก็ไม่มีใครหวาดกลัว ยังคงอยู่ดีมีสุขตามปกติไม่มีปัญหาอะไร หลังจากทางทีมงานจดรายละเอียดข้อมูลต่างๆ จึงได้ทำการตรวจสอบและวางแผน จนกระทั่งวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา นัดหมายขออนุญาตเจ้าของบ้านยกกองถ่าย ประมาณ 10 คน เดินทางไปพิสูจน์เรื่องลี้ลับดังกล่าว มีการตรวจสอบพื้นที่ในบ้านอย่างละเอียดทุกซอก ทุกมุมว่ามีอะไรซุกซ่อนอยู่หรือไม่ จากนั้นจึงเริ่มติดตั้งกล้องทีวี ระบบดีวี ไว้บริเวณชั้น 3 ส่วนภายในห้องน้ำนอกจากจะติดตั้งกล้อง ไฟส่องสว่างแล้ว ยังมีการติดตั้ง เครื่องตรวจ คลื่นแม่เหล็ก(ต่างประเทศ นิยมใช้ตรวจจับความเคลื่อนไหวคลื่นความถี่) โดยตั้งเวลา 02.00 -04.00 น. ระหว่างถ่ายทำไม่พบสิ่งผิดปกติอย่างใด พอกลับมาถึงบริษัทก็มีการตรวจสอบเทปที่อัดตามปกติ เพื่อจะเตรียมเก็บไว้ก่อนจะแพร่ภาพออกอากาศ ในตอนแรกๆก็ไม่พบสิ่งผิดปกติอะไร แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เล่นเอาทีมงานถึงกับตื่นตะลึงขนหัวลุกซู่ เพราะพบเห็นภาพเงารางๆสีขาวคล้ายร่างคนปรากฎอยู่หน้าห้องน้ำ ประมาณ 30 วินาที จากนั้นก็เลือนหายไปเฉยๆ ได้มีการนำเทปมาเปิดดูซ้ำอีกหลายรอบ เงารางๆก็ยังปรากฎอยู่ จึงสร้างความงุนงงเป็นอย่างมาก บางคนถึงกับเอ่ยปากสงสัยว่าอาจจะเป็นภาพของดวงวิญญาน เพราะตั้งแต่ไป ถ่ายทำรายการลี้ลับตามจังหวัดต่างๆมาหลายแห่งก็ยังไม่เคย พบภาพลักษณะที่เด่นชัดขนาดนี้เลย ขณะนี้ยังไม่มีใครตอบได้ว่าเงารางๆเกิดขึ้นได้อย่างไร และเป็นอะไรกันแน่ สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวจะมีการแพร่ภาพออกอากาศทางโทรทัศน์ ทั่วประเทศในคืนวันพุธที่ 20 ก.ย. ต่อมาช่วงเย็นวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวนำเทปวีดีโอจากทีมงานถ่ายทำ ไปให้อาจารย์ประภาส นวลเนตร ประจำสาขาวิชาวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ คณะนิเทศน์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ได้เปิดชมอย่างละเอียดอยู่หลายสิบรอบ เปิดเผยว่า ภาพที่เห็นเป็นลำแสงสีขาว มองผิวเผินแล้วคล้ายโครงร่างของมนุษย์ ในแง่ของเทคนิคทางด้านโทรทัศน์สามารถทำไม่ยาก อาศัยความเชี่ยวชาญทางเทคนิคผสมภาพก็สามารถทำได้แล้ว หากจะตรวจภาพลักษณะนี้กันจริงๆต้องดูองค์ประกอบหลายอย่างด้วยกัน

วันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ตึกสูงที่สุดในมหานคร

posted on 28 Jul 2009 20:46 by waenaglariel in -talk-
ที่จริงโครงการนี้ลูกค้างุบงิบกันทำเงียบๆมาเกือบปีแล้ว แต่เพิ่งประกาศและมีรูปร่างหน้าตาให้เห็น
อย่างเป็นทางการเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี้เอง

ก่อนอื่น ทบทวนความรู้วิชาสังคมหน่อยซิตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทยตอนนี้คือ ตึกใบหยก 2
แต่อีก 3 ปีจะมีตึกที่ทำลายสถิติใบหยกแล้ตึกนี้ชื่อ


มหานคร [
MAHA NAKHON]
http://i2.photobucket.com/albums/y17/waenaglariel/Support-BLOG/ole03.jpg
© OMA/Ole Scheeren 2009
มหานครเป็นโครงการแบบที่เรียกว่Mix-used (แปลว่าตึกนึงใช้งานได้หลายอย่าง)

สูง 310 เมตร 77 ชั้น
ประกอบด้วยส่วนที่เป็นพลาซ่าเรียกว่ามหานครแสควร์ เป็นพวกร้านค้าภัตตาคารหรูเชื่อมต่อกับเมือง
อยู่บริเวณโพเดียมด้านล่างถัดมากลางๆเป็นคอนโด
(บริหารโดย
Ritz-Carlton ราคาขายออกมาแล้ว ตร.ม.ละ 250,000 บาท)

ด้านบนสุดเป็น โรงแรม Boutigue และสุดท้ายภัตตาคารบนดาดฟ้า sky bar นั่นเอง
http://i2.photobucket.com/albums/y17/waenaglariel/Support-BLOG/ole07.jpg
© OMA/Ole Scheeren 2009 พลาซาด้านล่าง
http://i2.photobucket.com/albums/y17/waenaglariel/Support-BLOG/ole04.jpg
© OMA/Ole Scheeren 2009 มองจากด้านบน
สำหรับห้องพักมีการใช้ระบบหน้าต่างแบบ cassette ที่สามารถดันช่องหน้าต่างด้านบน
ขึ้นไปเก็บแนบกับฝ้าเพดาน ทำให้สเปซภายในกลายเป็นเหมือนระเบียงที่เชื่อมต่อกับภายนอกทันที

http://i2.photobucket.com/albums/y17/waenaglariel/Support-BLOG/image006.jpg
© OMA/Ole Scheeren 2009 หน้าต่าง


โครงการนี้ออกแบบโดยออฟฟิศออกแบบระดับโลกจากเนเธอแลนด์
Office for Metropolitan Architecture หรือ
OMA

ถ้าใครเรียนถาปัดน่าจะคุ้นชื่อ Rem Koolhaas ละน้อ (คนเขียนหนังสือเล่มใหญ่ทุบหัวหมาแบะ S,M,L,XL)
Rem เป็นเจ้าของออฟฟิศนี้

แต่สถาปนิกงานนี้เป็นสถาปนิกเยอรมัน เป็นหุ้นส่วนของออฟฟิศ
Ole Scheeren
ผู้ออกแบบอาคาร CCTV หนึ่งในอาคารที่เด่นสุดๆตอนโอลิมปิค 2008 นั่นเอง
http://i2.photobucket.com/albums/y17/waenaglariel/Support-BLOG/n5885094271_3417.jpg (อายุแค่ 38 แต่ได้ทำงานสเกลหมื่นล้านทั้งนั้นเลยวุ้ย โฮก )
โอเลตีโจทย์ของตึกมหานครว่า
(อันนี้แปลจากสัมภาษณ์ใน financial Times รวมกับบทความของคุณ
อภิชาติ คุ้มรำไพ จาก www.archthai.com
สถาปนิกพูดอะไรเข้าใจยาก แปลผิดแปลถูกก็ขออภัย แต่ประมาณว่า)


คอนเซปต์มาจาก กรุงเทพ มหานคร (พี่แกแปลกันโต้งๆงี้แหละ)
เป็นอาคารที่มีความเป็นเมือง (Metropolis) แบบสุดๆ
เลยขึ้นมาเป็นแท่งเดี่ยวตั้งเด่แบบโมเดิร์นสุดๆ แล้วค่อยทลายความเพอร์เฟกต์ลง
เหมือนไวรัสคอมพิวเตอร์ที่กินรูปภาพแบบ pixel (pixilated)
สร้างความเป็นดิจิตอลและคว้านรอบแมสรอบอาคารออกเป็นเกลียว
ม้วนขึ้นไปจนถึงชั้นบนสุด
http://i2.photobucket.com/albums/y17/waenaglariel/Support-BLOG/ole05.gif
© OMA/Ole Scheeren 2009 เหมือนโดนทอร์นาโด?

แต่ไม่ใช่ว่าสร้างตึกใหญ่ขนาดนี้จะไปข่มเมืองรอบด้านหมด
อาคารเลยลดทอนความใหญ่ยักษ์ลงมา ด้วยการสร้างกลิตเตอร์จากแสงไฟเล็กๆ
http://i2.photobucket.com/albums/y17/waenaglariel/Support-BLOG/image003.jpg
© OMA/Ole Scheeren 2009 วิวกลางคืน
และมีการยื่น หดตัวผิวหน้าของอาคาร ที่เป็นส่วนพักอาศัยทำให้เกิด terrace
และประโยชน์ใช้สอย outdoor ต่าง ๆ ขึ้น ทั้งนี้ยังสร้างแพทเทิร์นแบบที่ไม่สมำเสมอ
( irregularity ) ให้กับพื้นผิวอาคาร

http://i2.photobucket.com/albums/y17/waenaglariel/Support-BLOG/ole06.jpg
© OMA/Ole Scheeren 2009
http://i2.photobucket.com/albums/y17/waenaglariel/Support-BLOG/ole08.jpg
© OMA/Ole Scheeren 2009


มหานคร อยู่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี โครงการจะเริ่มก่อสร้างในปีนี้และมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2012


เกร็ดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ มหานคร

  • เจ้าของโครงการชื่อ PACE Development
  • มูลค่าโครงการ 18,000 ล้านบาท
  • แต่ไม่ใช่เงินเจ้าของในเมืองไทยอย่างเดียว ได้ทุนจากอิสราเอลมาลงทุนด้วย
  • ห้องที่ถูกที่สุด 30 ล้าน
  • แพงที่สุด 300 ล้าน...
  • โอเลเดตกะแม้กกี้ ชุงอยู่ อะรูป << บังเอิญเจอตอนหาข้อมูล กร๊ากก
  • OMA ค่าออกแบบแพงมากกกกก
  • ไม่ใช่แค่สถาปนิก วิศวกรก็ใช้ระดับ TOP3 ของโลก
  • ARUP วิศวกรสนามกีฬารังนกที่ปักกิ่ง
  • เจ้าของก็เปรี้ยวมาก กล้าจ่าย
  • ที่ดินเป็นที่ป่าช้าฝรั่งเก่า (ของมิสซังคาทอลิค)
  • เลยว่างไม่มีใครเข้ามาทำอะไรมานาน เพราะเค้าว่าที่แรวงมวากกก
  • เจ้าของโครงการคงคิดว่าขายฝรั่ง(มั้ง)
  • .....แต่ผีก็ฝรั่งนะเฟ้ย!!
  • เจอเคสผีหลอกตอนเปิดใช้คงฮาแตก ดิจิตอลโปรเจคต์เอ๋ย
  • ตอนนี้ที่โครงการทำสำนักงานขายแล้ว ใครอยู่แถวนั้นไปแอบเมียงมองจากทางรถไฟฟ้าได้
  • ส่วนตัวดีใจที่มีงานของผู้ออกแบบ Global Scale มาอยู่ในเมืองไทยเสียที
  • (จริงๆรอเซ็นทรัลชิดลม 2 ของ future system เหมือนกัน แต่อันนั้นนิ่ง....)


มี landmark ใหม่ๆสวยๆบ้างก็ดีนะ บางกอก

http://i2.photobucket.com/albums/y17/waenaglariel/Support-BLOG/mahanakhon_is.jpg

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก:
www.maha-nakhon.com

วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

สถานที่แปลกๆ ที่ไม่คิดว่าจะมีในโลก อันดับสุดท้าย สุดยอดดดด ...

1. เดอะเวฟ ( The Wave) ที่รัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา

"เดอะเวฟ" คือ ภูเขาหินทรายที่ฟอร์มตัวในลักษณะคล้ายคลื่นลาดชัน เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 190 ล้านปีก่อนหรือในยุคจูราสสิก
เนื่องจากพื้นที่แถบนี้มีความเปราะบางมาก ทางการจึงจำกัดให้เข้าชมได้เพียงวันละไม่เกิน 20 คน และต้องเดินเท้าเข้าไปเกือบ 5 ก.ม. จึงจะถึงดินแดนมหัศจรรย์แห่งนี้
---------

2. Tessellated Pavement
บนเกาะแทสเมเนีย (รัฐหนึ่งในประเทศออสเตรเลีย)

นี่คือภาพลานหินตะกอนบริเวณชายฝั่งที่ Eaglehawk Neck บนเกาะแทสมาเนีย
ซึ่งถ้าหากมองเผินๆ จะแลดูคล้ายมีใครนำแผ่นกระเบื้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่มาวางเรียงรายริมทะเล
(บริเวณขอบสี่เหลี่ยมที่เราเห็นเป็นแนวเส้นตรงนั้น เกิดจากแรงตึงเครียดของผิวโลก ผนวกกับการกัดเซาะอย่างต่อเนื่องของคลื่นและแรงเสียดสีของทราย)
---------

3.
หินรูปทรงประหลาด ในทะเลทรายขาว ( White Desert) ประเทศอียิปต์

ทะเลทรายแห่งนี้ตั้งอยู่ใน Farafra Oasis มีลักษณะเป็นสีขาวและครีม
ประกอบด้วยกลุ่มหินชอล์ครูปทรงประหลาดขนาดใหญ่มากมาย อันเป็นผลงานของพายุทรายที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว
---------

4.
บ่อน้ำพุร้อนสีเลือด ( Blood Pond Hot Spring) ที่เบปปุ ประเทศญี่ปุ่น

น้ำพุร้อนสีเลือด (Chinoike Jigoku) เป็นหนึ่งในบ่อน้ำพุร้อนชื่อดังของเมืองเบปปุ ในจังหวัดโออิตะ บนเกาะคิวชู
สาเหตุที่น้ำพุมีสีเลือดเนื่องจากมีธาตุเหล็กอยู่ในปริมาณมากนั่นเอง
---------

5. Giant's Causeway
ที่ไอร์แลนด์เหนือ

Giant's Causeway เป็นชายฝั่งที่เกิดจากการเย็นตัวของหินภูเขาไฟเมื่อประมาณ 50,000 ถึง 60,000 ปีที่ผ่านมา
ก่อให้เกิดหินรูปหกเหลี่ยมและหินแท่งสี่เหลี่ยมกว่า 40,000 แท่ง
องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียน Giant´s Causeway เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529)
---------

6.
ทะเลเกลือ ( salt flats) ที่ Salar de Uyuni ประเทศโบลิเวีย

จริงๆ แล้วที่ราบเกลือหรือทะเลเกลือลักษณะนี้มีอยู่หลายแห่งด้วยกัน
แต่ทะเลเกลือที่ Salar de Uyuni ของประเทศโบลิเวียนั้น มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
โดยมีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลมากถึง 10,582 ตารางกิโลเมตร
---------

7.
ป่าหิน ( Stone Forest) เมืองคุนหมิง มลฑลยูนาน ประเทศจีน

อุทยานป่าหิน (Shilin National Park) ในเมืองคุนหมิง จัดเป็นป่าหินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
โดยมีพื้นที่มากถึง 350 ตารางกิโลเมตร แต่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเพียง 12 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น
เดิมทีหินปูนเหล่านี้อยู่ใต้ผิวโลก แต่ภายหลังได้ถูกดันขึ้นมาในลักษณะเดียวกับหินงอก
เชื่อกันว่าป่าหินแห่งนี้มีอายุราว 270 ล้านปีเลยทีเดียว
---------

8.
ธารน้ำแข็ง Taylor ใน McMurdo Dry Valleys ที่แอนตาร์คติกา (ขั้วโลกใต้)

ธารน้ำแข็งอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้ มีพื้นที่ส่วนหนึ่งที่โดดเด่นเป็นสีแดงส้ม ตัดกับน้ำแข็งส่วนอื่นๆ ซึ่งมีสีขาวโพลน
เนื่องจากพื้นที่แถบนั้นเต็มไปด้วยออกไซด์ของเหล็ก (iron oxide) ซึ่งก็คือ "สนิม" นั่นเอง
ด้วยเหตุนี้บริเวณดังกล่าวจึงได้รับการขนานนามตามลักษณะทางกายภาพว่า "น้ำตกเลือด" (Blood Falls)
---------

9.
ทะเลสาบสปอท เลค ( Spotted Lake) – ประเทศแคนาดา

“สปอท เลค” ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในทะเลสาบที่มีแร่ธาตุชนิดต่างๆ อาทิ แมกนีเซียม ซัลเฟต, แคลเซียม และโซเดียม ซัลเฟต ในปริมาณเข้มข้นมากที่สุดในโลก
แต่น่าเสียดายที่ทะเลสาบแห่งนี้อยู่ในที่ดินของเอกชน นักท่องเที่ยวจึงทำได้แค่มองจากราวรั้วกั้นริมถนนเท่านั้
(ส่วนที่เป็นจุดๆ คือน้ำ นอกนั้นเป็นส่วนของแร่ธาตุนานาชนิด ที่สามารถลงไปเดินสำรวจได้)
---------

10.
ทะเลทรายแบล็ค ร็อค ( Black Rock Desert) ที่รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา

ทะเลทรายแบล็คร็อค คือ ก้นทะเลสาบที่แห้งสนิท
ครั้งหนึ่งดินแดนแถบนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของทะเลสาบในยุคก่อนประวัติศาสตร์ ที่มีชื่อว่า "Lahontan"
ซึ่งปรากฏอยู่ในสมัย 18,000-7,000 พันปีก่อนคริสตกาล ในช่วงที่ทะเลสาบโบราณแห่งนี้มีระดับน้ำสูงสุด (เมื่อประมาณ 12,700 ปีก่อน)
ทะเลทรายแบล็คร็อคเคยอยู่ใต้น้ำที่มีความลึกถึง 150 เมตรเลยทีเดียว
---------

11.
ถ้ำคริสตัล ( Crystal Cave) ในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

ถ้ำคริสตัล เป็น 1 ใน 240 ถ้ำ (ที่ถูกค้นพบ) ภายในอุทยานแห่งชาติ Sequoia ในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย
ถ้ำดังกล่าวเป็นถ้ำ "หินอ่อน" ธรรมชาติ ที่ภายในมีอุณหภูมิคงที่ประมาณ 9 องศาเซลเซียส
ซึ่งการจะเข้าไปชมภายในถ้ำต้องอาศัยไกด์ทัวร์เป็นผู้นำทางเท่านั้น
---------

12.
ทุ่งหินรูปรังผึ้ง Bungle Bungles ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลีย

ทุ่งหินทรายที่มีรูปทรงคล้ายรังผึ้ง หรือ Bungle Bungles นี้ เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Purnululu
ที่องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530) กลุ่มหินดังกล่าวประกอบด้วยหินทรายและหินกรวดมน
ซึ่งเมื่อประมาณ 375-350 ล้านปีก่อนหินเหล่านี้เคยเป็นตะกอนในลุ่มน้ำ "Ord"
---------

13.
ดินแดนโบราณ คัปปาโดเกีย ประเทศตุรกี

คัปปาโดเกีย ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก เมื่อปี ค.ศ.1985 (พ.ศ. 2528)
ดินแดนดังกล่าวมีภูมิประเทศที่แปลกตาซึ่งเกิดจากจากลาวาภูเขาไฟที่ไหลออก มาปกคลุมพื้นที่
เมื่อวันเวลาผ่านไป พายุ ลม ฝน ได้เป็นตัวแปรที่ก่อให้เกิดการแปรสภาพเป็นหุบเขา ร่องลึก เนินเขา กรวยหิน
และเสารูปทรงต่างๆ ที่งดงาม บางส่วนมีประชาชนอาศัยอยู่ภายใน
---------

14.
ทะเล (สาป) เดือด Boiling Lake ประเทศโดมินิกา ( Commonwealth of Dominica)

“Boiling Lake” เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก (รองจากทะเลสาป Frying Pan Lake ของประเทศนิวซีแลนด์)
มีความกว้างราว 60 เมตร ลึก 59 เมตร อุณหภูมิริมทะเลสาปอยู่ที่ประมาณ 82 – 91.5 องศาเซลเซียส
ระดับน้ำภายในทะเลสาปแห่งนี้มีลักษณะขึ้น-ลงตลอดเวลา โดยเมื่อเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) น้ำในทะเลสาปแห่งนี้ได้แห้งเหือดหายไป
และเพิ่งกลับมาอยู่ในระดับปกติอีกครั้งเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
---------

15.
แม่น้ำสีแดง ( Rio Tinto) ที่ประเทศสเปน

บริเวณพื้นที่ตามแนวชายฝั่งแม่น้ำ Río Tinto มีการทำเหมืองทองแดง เงิน ทอง และแร่ธาตุอื่นๆ มาตั้งแต่สมัยโบราณ (ราว 5 พันปีก่อน)
ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำดังกล่าวมีค่าความเป็นกรดสูงมาก ส่วนสาเหตุที่น้ำมีสีแดงก็เนื่องมาจากก้อนหินที่อยู่ในแม่น้ำแห่งนี้ประกอบ ด้วยธาตุเหล็กในปริมาณเข้มข้นนั่นเอง
เหมืองในแถบนี้ถูกปิดมานานนับ 10 ปี แต่เนื่องจากทองแดงมีราคาสูงขึ้น เจ้าของเหมืองจึงมีแผนเปิดเหมืองทองแดงอีกครั้งในปีหน้า
---------

16.
หุบเขาโลกพระจันทร์ ( Vale de Lua) ที่ประเทศบราซิล

หุบเขาโลกพระจันทร์ หรือ "the valley of the moon" เป็นที่ราบสูงโบราณที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1.8 พันล้านปี
โดยพื้นที่ว่างระหว่างก้อนหินจะมีน้ำจากแม่น้ำ San Miguel แทรกอยู่ภายใน ดินแดนประหลาดแถบนี้เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Chapada dos Veadeiros
ซึ่งองค์การยูเนสโกประกาศให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) ที่ผ่านมา
---------

17. จ
ะ โตน เห็น ประเทศไทย


แท่งหินประหลาดที่มีอายุกว่า 20 ปี ตำนานการเกิดของมันนั้นน่าอดสูเกินกว่าจะกล่าว และจนกระทั่งบัดนี้ก็ยังไม่มีผู้ใดสามารถอธิบายได้ว่า แท่งหินพิลึกที่เรียงกันเป็นทางยาวเหมือนสโตนเฮ็นจ์ นี้ให้ประโยชน์อันใดให้แก่ประเทศไทย

วันศุกร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ทูไนท์โชว์ เอ็กซ์เม็น เมืองไทย X-Men (12-07-10)


ทูไนท์โชว์ เอ็กซ์เม็น เมืองไทย X-Men (12-07-10) - ดูวิดีโอทั้งหมด กดที่นี่

คลิป วิดีโอ : เจาะข่าวเด่น อีก30ปี น้ำท่วมกรุงเทพฯ (15-07-10)

จุดอ่อนของคนไทย 10 ประการ จากวิกรม กรมดิษฐ์

cid:D88BD97B9A41444D99D90EAF58EBDD4F@KCSSaraburi

สุดยอด IDEA ป้ายโฆษณา

ป้ายโฆษณาเป็นสื่อที่ต้องใช้จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์เป็นอย่างมาก เพราะป้ายนั้นเป็นสื่อที่ไม่เคลื่อนไหวเหมือนบนโทรทัศน์ การที่จะออกแบบให้คนดูให้เข้าใจถึงสิ่งที่จะสื่อตามที่โฆษณานั้น จึงเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย บรรดาป้ายโฆษณาในโลกนั้น มีอยู่มากทีเดียวที่สามารถใช้พื้นที่ที่จำกัดของป้ายจนสามารถบรรลุเป้าหมายของการโฆษณาได้อย่างน่าอัศจรรย์ นี่คือตัวอย่างของป้ายที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์จากทั่วโลก



cid:9454C8B6D3C446D49E742A6A70E20365@ANO

ป้ายโฆษณายึ่ห้อยาย้อมผม Koleston Naturals ที่น่าตื่นตะลึงนี้ ตั้งอยู่ในเมืองเบรุต , ประเทศเลบานอน เป็นโฆษณาที่อาศัยแสงสีของทิวทัศน์ด้านหลังมาทำให้เกิดลวดลายบนป้ายโฆษณา ซึ่งสามารถเปลี่ยนสีไปตามแต่ละช่วงเวลาในแต่ละวัน




cid:8C9376AD9C504C3390542AFA4A59056B@ANO

ป้ายโฆษณาของนิตยสาร The Economists ที่ตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน , ประเทศอังกฤษนี้ สร้างสรรค์มากจนได้รับรางวัล London International Awardsสาขาป้ายโฆษณาในปี 2005 ที่ด้านล่างของหลอดไฟมีเซนเซอร์คอยทำให้หลอดไฟสว่างเมื่อมีคนเดินผ่านข้างใต้




cid:E766310F01BB43F492D9AE31ACB7C9EF@ANO

ป้ายรณรงค์การประหยัดทรัพยากรของบริษัทผู้ให้บริการน้ำปะปาในเมืองเดนเวอร์ที่ชื่อ Denver Water นี้ แสดงให้เห็นถึงการใช้ทรัพยากรอย่างประหยัดได้เป็นอย่างดี




cid:BB7F575F6E50423B8C3D4C375262058A@ANO

ป้ายโฆษณาแมคโดนัลด์ในเมืองชิคาโก ถูกดัดแปลงให้เป็นนาฬิกาแดด พร้อมแนะนำเมนูที่เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลาด้วย ... สุดยอดจริงๆ!




cid:EEFE88425E3945DA8F9DC8787EC40D63@ANO

เมื่อน้ำยาดับกลิ่นชาย AXE อยากจะโปรโมตสินค้าของตนในประเทศแอฟริกาใต้ ก็ได้มีการออกแบบปฏิทินขนาดยักษ์ไปปะติดไว้บนผนังของหอพักนักศึกษาหญิงแห่งหนึ่ง ซึ่งดึงดูดความสนใจของคนที่ผ่านไปผ่านมาได้ดีทีเดียว (โดยเฉพาะผู้ชาย)




cid:1165081E937940AB91C40A8F82DDAD17@ANO

มีวีธีอะไรที่จะสามารถบอกให้คนรู้ว่าสีของคุณนั้นเป็นสีที่สวยดั่งธรรมชาติได้เท่ากับเอาธรรมชาติมาเป็นฉากหลังซะเลย! ป้ายโฆษณาของบริษัทสี Berger Paints ในประเทศอินเดียนี้ ให้ความรู้สึกราวกับว่าสีที่ทานั้นกลมกลืนไปกับท้องฟ้าด้านหลัง




cid:84C709FAB1A54C709CD310C165A9E875@ANO

ป้ายโฆษณาที่กินได้แผ่นแรกของโลก โดยบริษัทผู้ผลิตซ็อคโกแลต Thorntons ในประเทศอังกฤษ ได้ทำแผ่นป้ายจากช็อคโกแลตล้วนๆ เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลอิสเตอร์ในปี 2007 ดึงดูดคุณหนูๆได้เป็นอย่างดี...และแน่นอน ป้ายนี้ตั้งอยู่ได้ไม่นาน ก็ถูกกินเกลี้ยง




cid:AA371D67B2004139BA8483A3056324E3@ANO

อีกหนึ่งป้ายที่อยู่ได้ไม่นาน ป้ายโฆษณาของรถยนต์ยี่ห้อเชปโรเรต ที่สร้างขึ้นโดยใช้เหรียญ 1 เพนนี ( 1 สตางค์ของสหรัฐฯ) จำนวน 20,000 เหรียญ (ประมาณ 6,500 บาท) เพื่อโฆษณารถรู่น Aveo นี้ ถูกคนที่ผ่านไปผ่านมาแกะออกหมดภาพในเวลาไม่ถึง 30 นาที




cid:BD2128A832CC4A18B7C0184F15184492@ANO

ป้ายโฆษณายาสีฟันสูตรเสริมความแข็งแรงของฟันที่ตั้งอยู่ในอินโดนีเซียนี้...ดูท่าจะทำให้ฟันแข็งแรงเกินความจำเป็น




cid:D3708203FEB64BEA8BCEC4961F5E4441@ANO

บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของอเมริการายนี้ ทำป้ายที่สุดเตะตานี้เพื่อโปรโมตว่าผู้ใช้บริการของเขาจะไม่มีสายหลุดกลางคัน ... แต่อย่างอื่น ... ไม่รู้แฮะ




cid:6DCA1D70312647458A05B017AC7B8B50@ANO

ป้ายรณรงค์การประหยัดไฟฟ้าของบริษัท Eskom ที่เป็นผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ให้กับประเทศแอฟริกาใต้ แสดงให้เห็นว่าการใช้พลังงานอย่างชานฉลาด สามารถทำให้เป็นจุดสนใจของผู้คนได้เป็นอย่างดี




cid:FD65900B23AB4855BDA6AE77B30D4521@ANO

โรงเรียนสอนดนตรีในเมืองกัลกัตตาของอินเดีย ทำโฆษณาสุดแหวกแนวเพื่อโปรโมตคอร์สเรียนดนตรีสากล ด้วยการดัดแปลงสายไฟฟ้าข้างถนนให้เป็นบรรทัด 5 เส้น พร้อมสรรพด้วยตัวโน๊ต ซึ่งเรียกความสนใจของคนผ่านไปมาอย่างไม่ต้องสงสัย




cid:31AB82302CAB4814A652916130D40384@ANO

ป้ายโฆษณาบริการให้ความช่วยเหลือเลิกสูบบุหรี่ในรัฐมินิอาโปลิสของสหรัฐฯ ใช้วิธีการบอกที่ตรงไปตรงมา




cid:20B393B92C6B4745A36A6F87A055FC98@ANO

ป้ายโฆษณายาสระผมรีจอยส์ในไทยอันนี้ ทำป้ายโฆษณาเป็นรูปหวีขนาดใหญ่นำไปติดบนสายไฟฟ้าที่ยุ่งเหยิง นับเป็นโฆษณาที่มีความคิดสร้างสรรค์มากอันหนึ่งเลยทีเดียว ... แต่ตัวผู้เขียนไม่เคยจำได้ว่าเคยเห็นว่าอยู่ที่ไหน และไม่มีรายละเอียดใดๆ ถึงสถานที่และช่วงเวลาที่โฆษณานี้ตั้งอยู่ ... มีใครจำได้บ้างไหมเอ่ย ?


วันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

"Phantom Eye" ยานบินไร้คนขับพลังไฮโดรเจน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์15 กรกฎาคม 2553 13:25 น.

"แฟนทอมอาย" เครื่องบินไร้คนขับพลังไฮโดรเจนจากโบอิง (โบอิง)

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

“โบอิง” เปิดตัวเครื่องบินไร้คนขับพลังงานไฮโดรเจน “เจ้าตาปีศาจ” ที่สามารถบินได้ต่อเนื่อง 4 วัน และสามารถบินได้สูงถึง 20,000 เมตร โดยเครื่องบินต้นแบบนี้ จะถูกส่งไปยังศูนย์วิจัยการบินของนาซาเพื่อเตรียมทดลองบินเที่ยวแรกต้นปี 2011 นี้

จากการเปิดเผยของ “โบอิง” (Boeing) บีบีซีนิวส์ระบุว่า บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินยักษ์ใหญ่ของโลกนี้ได้เปิดตัวเครื่องบินพลังงานไฮโดรเจนไร้คนขับที่ชื่อว่า “แฟนทอมอาย” (Phantom Eye) หรือ “ตาปีศาจ” ซึ่งสามารถบินที่ระดับความสูง 20,000 เมตร และบินต่อเนื่องถึง 4 วัน

เครื่องบินต้นแบบนี้จะถูกขนส่งไปยังศูนย์วิจัยการบินดรายเดน (Dryden Flight Research Center) ขององค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐฯ (นาซา) ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ในช่วงฤดูร้อนนี้ของซีกโลกเหนือ เพื่อเตรียมทดสอบการบินเที่ยวแรกต้นปี 2011 ซึ่งเครื่องบินนี้เป็นผลงานจากหน่วยวิจัย “แฟนทอมเวิร์คส” (Phantom Works) และทีมพัฒนาที่เป็นความลับของโบอิง


โบอิงระบุว่า ในที่สุดเครื่องบินพลังงานไฮโดรเจนนี้ ต้องมีความฉลาดอยู่ในตัวและสามารถควบคุมได้ด้วยตัวเอง และบอกด้วยว่าเครื่องบินลำนี้รองรับเที่ยวบินทรหดได้อย่างยาวนาน เพราะมีระบบพลังงานไฮโดรเจนที่เบาขึ้นและทรงพลังขึ้น

คริส แฮดดอกซ์ (Chris Haddox) จากหน่วยวิจัยแฟนทอมเวิร์คสกล่าวว่า ในปี 1989 ทางบริษัทเคยทดลองบิน “คอนดอร์” (Condor) ยานไร้คนขับที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงทั่วไป ซึ่งบินได้นาน 60 ชั่วโมงและเป็นเวลายาวนานที่สุดแล้วที่ทำได้

“ตอนนี้เรากำลังพูดถึงการบินยาวนาน 96 ชั่วโมง” แฮดดอกซ์กล่าว

ทั้งนี้ โบอิงอธิบายว่าเครื่องบินแฟนทอมอายนี้ ใช้พลังงานไฮโดรเจน 2.3 ลิตร โดยมีเครื่องยนต์ทรงกระบอก 4 ชุดที่แต่ละชุดให้กำลัง 150 แรงม้า และตัวเครื่องมีขนาดใหญ่มาก ด้วยความกว้างของปีกที่ยาวถึง 46 เมตร

“มันไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อสอดแนม แต่สร้างมาเพื่อพิสูจน์ความอึด”แฮดดอกซ์บอกบีบีซีนิวส์

ด้านกระทรวงกลาโหมของสหราชอาณาจักร (UK Ministry of Defence: MoD) สนใจในเครื่องบินที่มีความทนทานและบินได้ในระดับสูง เพื่อใช้ในการตรวจตรา และกำลังพิจารณาอย่างถ้วนถี่ในเทคโนโลยีต่างๆ ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อบรรลุเป้าหมาย “โครงการบริโภคซากอินทรีย์” (Scavenger project) โดยกระทรวงมีความร่วมมือกับ ควินทิค (Qinetiq) บริษัทพัฒนาอากาศยานและการป้องกันภัย ซึ่งกำลังจะบรรลุความสำเร็จในการพัฒนาเครื่องบินพลังงานแสงอาทิตย์ที่เรียกว่า “เซไฟร์” (Zephyr)

ทั้งนี้ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักรรบุว่า การบินได้ยาวนานถึง 4 วันนั้นเป็นเรื่องดี แต่ทางกระทรวงกำลังพิจารณาคุณสมบัติเพื่อตอบสนองความต้องการในการสอดแนมที่ถาวรและเข้มข้น ซึ่งเครื่องบินที่มีคุณสมบัติดังกล่าวจะลอยตัวอยู่ในอากาสได้
นานเกินสัปดาห์