ช่วงเช้ามืดวันนี้ (18 ต.ค.) มีรายงานข่าว ว่าระดับน้ำในลำตะคองซึ่งไหลผ่านตัวเมืองนครราชสีมาได้เพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนเอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมสองฝั่งลำตะคองตลอดทั้งสาย ตั้งแต่อำเภอสีคิ้ว อำเภอสูงเนิน เรื่อยมาจนถึงเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ส่งผลให้บ้านเรือนหลายพันหลังคาเรือนเดือดร้อนอย่างหนัก
โดยเฉพาะบริเวณถนนมิตรภาพ แยกนครราชสีมา น้ำในลำน้ำลำตะคองได้เอ่อทะลักเข้าท่วมโรงเรียนอัสสัมชัญนครราชสีมา และโรงเรียนเพาะชำ 4 เทศบาลนครนครราชสีมา นอกจากนี้ด้วยประมาณน้ำในลำน้ำลำตะคองมีปริมาณที่สูง ยังได้ทำให้กำแพงของโรงพยาบาลเซนเมรี่ ที่อยู่ติดกับลำน้ำพังทลายลงมา ส่งผลให้น้ำทะลักเข้าท่วมภายในพื้นที่ของโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่ยังคงมีผู้ป่วยและญาติ รวมถึง คณะแพทย์พยาบาลของโรงพยาบาลติดอยู่ภายในโรงพยาบาลหลายร้อยชีวิต ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำการลำเลียงผู้ป่วย และญาติ ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วส่วนหนึ่ง แต่ยังคงมีอีกนับร้อยชีวิตที่ยังคงรอการช่วยเหลืออยู่ภายในโรงพยาบาล
ทั้งนี้ผู้ที่ได้รับการขนย้ายออกจากโรงพยาบาลในเบื้องต้น จะเป็นผู้ป่วยหนัก ซึ่งขณะนี้ได้นำผู้ป่วยที่ลำเลียงออกมาทั้งหมดส่งไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกรุงเทพฯ - ราชสีมา ก่อนในเบื้องต้น จนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะคลี่คลาย ขณะที่ปริมาณน้ำที่ทะลักเข้ามายังได้เข้าท่วมลานจอดรถของโรงพยาบาลซึ่งมีรถของญาติผู้ป่วยและแพทย์พยาบาลจอดอยู่จำนวนมากจมอยู่ในน้ำ โดยปริมาณน้ำสูง 1.50 เมตร
เช่นเดียวกันกับที่ บริเวณถนนช้างเผือก เขตเทศบาลนครนครราชสีมา ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาน้ำลำตะคองได้ไหลเอ่อทะลักเข้าท่วมภายในโรงพยาบาลเกือบทั่วพื้นที่ทั้งหมดแล้ว ล่าสุดระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องขนย้ายอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ และอพยพผู้ป่วยขึ้นไปอยู่บนอาคารสูง โดยทางกองทัพภาคที่ 2 และเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้นำรถบรรทุกขนาดใหญ่ และเรือท้องแบนไปช่วยเหลือแล้ว
ทางโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาได้ฝากประชาสัมพันธ์มายังผู้ป่วยนัด หรือผู้ป่วยที่ต้องการมารักษากับทางโรงพยาบาล หากอาการไม่หนัก หรือยาที่แพทย์ให้ยังคงมีเหลือก็ควรที่จะเลื่อนนัดออกไปก่อน 1 สัปดาห์ หรือจนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะคลี่คลาย
แต่หากผู้ป่วยที่อาการหนักจำเป็นเดินทางมาที่โรงพยาบาลทางเจ้าหน้าที่ก็จะเตรียมรถบรรทุกขนาดใหญ่ไว้คอยบริการรับส่ง ซึ่งหากสงสัยสามารถโทรศัพท์ติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์ 044-235071 ในวันเวลาราชการ
ทั้งนี้เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาเวลาประมาณ 23.00 น. วันที่ 17 ต.ค. ศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดนครราชสีมา ได้ออกประกาศฉบับที่ 3 แจ้งเตือนประชาชนในเขตเทศบาลนครราชสีมาที่อาศัยอยู่ริมฝั่งลำตะคอง และบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง ให้เตรียมรับมือกับน้ำที่กำลังไหลเข้าเมือง และอพยพสิ่งของเครื่องใช้ไปไว้ในที่สูง ซึ่งคาดการณ์ว่าช่วงเช้าวันนี้ (18 ต.ค. 53) ปริมาณน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมอีก 70 เซนติเมตร
อย่างไรก็ตามขณะนี้ที่จังหวัดนครราชสีมามีรายงานผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้แล้ว 4 ราย แบ่งเป็น อำเภอปากช่อง 1 ราย และอำเภอด่านขุนทดอีก 2 ราย และยังมีประชาชนติดอยู่ภายในบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมอีกเป็นจำนวนมาก โดยในวันนี้ นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา จะขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินตรวจสภาพน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาเพื่อประเมินสถานการณ์ และวางแผนสั่งการแก้ไขปัญหาต่อไป
นายสถานีรถไฟโคราชยันเปิดเดินขบวนรถไฟแล้ว 70% ชี้หากปริมาณน้ำไม่เพิ่ม 19 ต.ค. เดินขบวนรถได้ 100% หลังถูกน้ำท่วมรางต้องปิดการเดินรถ 1 วัน
นายสมศักดิ์ เตียนพลกรัง นายสถานีรถไฟนครราชสีมา กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมรางรถไฟ ระหว่างสถานีโคกกรวด ต.โคกกรวด อ.เมือง- สถานีตำบลกุดจิก อ.สูงเนิน - สถานีตำบลจันทึก -สถานีซับม่วง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ขณะนี้สถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติในช่วงเช้ามืดวันที่ (18 ต.ค.) ทำให้การรถไฟแห่งประเทศไทยได้เปิดเดินรถไฟ
โดยเที่ยวแรก เป็นขบวนรถรางธรรมดา ออกจาก จ.สิรินทร์-กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ (18 ต.ค.) โดยขบวนดังกล่าวสามารถแล่นผ่านเส้นทางที่ถูกน้ำท่วมได้แล้ว หลังจากปิดการเดินรถ 1 วัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น